จากผลการศึกษาของ Trend Micro พบว่า การใช้เพจเจอร์สื่อสารกันในวงการแพทย์ โดยเฉพาะในต่างประเทศ (แต่ในไทยใช้ไลน์กันหมดแล้ว) มีช่องโหว่ให้ข้อมูลส่วนตัวด้านสุขภาพต่างๆ รั่วไหลได้
ทั้งนี้เนื่องจากข้อมูลที่ส่งหากันผ่านเพจเจอร์ ส่งแบบข้อความที่ไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นชื่อ, การรักษา, ผลแล็ป, หรือแม้แต่ความผิดพลาดในการรักษา ซึ่งสร้างข้อกังขากับการปฏิบัติตามกฎหมายรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วยอย่าง HIPAA แม้จะใช้ศัพท์เทคนิคหรือตัวย่อทางการแพทย์ ปัจจุบันก็สามารถตีความผ่านกูเกิ้ลหรือ WebMD ได้ไม่ยาก
และการล้วงข้อมูลเหล่านี้ก็ทำได้ง่ายเพียงแค่ใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์คลื่นวิทยุอย่าง SDR และธัมม์ไดรฟ์ ซึ่งสามารถหาซื้อได้จาก Amazon ได้ในราคาไม่ถึง 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น แม้แต่เด็กหรือวัยรุ่นที่ต้องการก่อกวน โดยเฉพาะอาชญากรที่ต้องการทำเงินจากข้อมูลเหล่านี้ก็สามารถเข้าถึงได้หมด
ปัจจุบันยังพบการใช้เพจเจอร์ในวงการแพทย์อย่างแพร่หลายทั่วโลกอยู่ ทั้งเอเชีย, ยุโรป, และอเมริกาเหนือ ประเด็นนี้จึงถือเป็นตัวอย่างที่ว่า เทคโนโลยีย่อมมีวันหมดอายุ และการไม่วิ่งตามเทคโนโลยีให้ทันย่อมถือเป็นการ “นิ่งเฉย” ที่ย่อมก่อให้เกิดผลร้ายตามมาได้ในที่สุด
ท่านใดที่อยากอ่านเพิ่มเติมว่าทำไมหมอถึงยังใช้เทคโนโลยีเพจเจอร์อยู่ ลองไปอ่านได้ที่นี่เลย – http://www.slate.com/articles/health_and_science/medical_examiner/2016/02/why_do_doctors_still_use_pagers.html
