ขณะที่ในหลายประเทศ หรือหลายต่อหลายเมืองเกือบทั่วประเทศต่างผ่อนคลายการล็อกดาวน์ หรือแม้แต่เริ่มไม่ใส่ผ้าปิดปากกันแล้ว ทำให้เจ้าของธุรกิจบางรายพยายามมองหาวิธีที่จะช่วยปกป้องสุขภาพพนักงานขณะที่เปิดให้กลับเข้ามาทำในออฟฟิศ
ซึ่งหนึ่งในวิธีที่นิยมใช้แม้จะดูโบราณไปสักนิดก็คือ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเครือข่ายไร้สายอย่างเช่น Wi-Fi, บลูทูช, และ GPS ในการติดตามตำแหน่งของพนักงานเพื่ออ้างอิงกรณีที่พบการระบาดของ Covid-19 ในบริษัท
โดยใช้แนวคิดในการติดตามเพื่อระบุคนที่สัมผัสกับผู้ป่วยที่ยืนยันผลตรวจแล้ว เพื่อให้พวกเขาได้รับข้อมูล กักตัว และเข้ารับการตรวจได้อย่างรวดเร็ว แต่ถึงแม้จะฟังดูเป็นแนวทางที่ดีสำหรับบางคน แต่ก็มีข้อเสียอยู่หลายประการ
โดยเฉพาะถ้าเทคโนโลยีไร้สายปัจจุบันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เอื้อต่อการตรวจติดตามการสัมผัส ทำให้มีปัญหาทั้งด้านความแม่นยำและความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความกังวลในการรักษาความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
ยกตัวอย่างเทคโนโลยีบลูทูชที่ทางแอปเปิ้ลและกูเกิ้ลได้นำมาผสานความสามารถในการติดตามตัวพื้นฐาน พร้อมให้ชุดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาที่เกี่ยวข้องบนระบบปฏิบัติการของตนเอง การติดตามนี้ทำได้โดยตรวจจับและจัดเก็บสัญญาณบลูทูช
ซึ่งมาจากการบรอดคาสต์ของอุปกรณ์บลูทูชอื่นรอบข้าง จากนั้นจึงอัพโหลดข้อมูลขึ้นคลาวด์ผ่านแอพที่เจ้าของเครื่องต้องดาวน์โหลดและติดตั้ง ทำให้สามารถหาผู้ที่มีแนวโน้มสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อได้โดยประมาณ แต่จุดด้อยจะอยู่ที่ความแม่นยำด้านระยะทาง
ทั้งนี้เพราะบลูทูชเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์กันเองแบบ Peer-to-Peer จึงไม่สามารถใช้การโยงความสัมพันธ์กับตำแหน่งอ้างอิงที่แน่นอนเพื่อให้ค่าที่แม่นยำได้ ซึ่งการใช้ความแรงของสัญญาณมาวัดระยะทางแทนนั้นค่อนข้างจะให้ผลที่ไม่ตรงตามความจริงได้พอสมควร
ที่มา : Networkcomputing