เป็นที่ทราบกันว่าไมโครซอฟท์กำลังเร่งพัฒนาวินโดวส์เวอร์ชั่นถัดไป โดยตอนนี้อยู่ในช่วงวางแผนและเริ่มโค้ดโปรแกรมภายใต้โค้ดเนม “Next Valley” ที่ตั้งเป้าจะออกมาให้ใช้กันปลายปี 2024 นั่นคืออีกประมาณสองปีต่อจากนี้
ปรับแต่งฟีเจอร์ให้ไม่หน่วงเครื่อง
แน่นอนว่ามีหลายอย่างที่หลายคนคาดหวังในเวอร์ชั่นใหม่นี้ เวอร์ชั่นที่ชื่อจริงๆ ยังไม่รู้ว่าใช้คำว่าวินโดวส์ 12 หรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการสเกลเปิดกว้างรองรับทุกอุปกรณ์ทุกสเปกอย่างแท้จริง ถ้าลงเครื่องสเปกต่ำก็สามารถปรับแต่งฟีเจอร์ให้ไม่หน่วงเครื่องได้อัตโนมัติ
One Product Fit All
จริงๆ วินโดวส์ก็ออกมาในฐานะ “One Product Fit All” อยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่บนเครื่องเวิร์กสเตชั่นไฮเอนด์สเปกแรง เครื่องเกมมิ่งพีซี ไปจนถึงพีซีเพื่อการศึกษาแบบประหยัดที่กำลังประมวลผลต่ำ แต่ก็ยังไม่ได้สเกลปรับตามฮาร์ดแวร์จริงบนเครื่อง
เราคาดหวังว่าเมื่อลงวินโดวส์ 12 บนบนอุปกรณ์โลว์เอนด์ระดับโครมบุ๊กเป็นต้น ก็ควรสเกลให้ตรงกับประสิทธิภาพและวัตถุประสงค์การใช้งานบนเครื่อง เช่น พีซีประหยัดเพื่อการศึกษาก็อาจไม่จำเป็นต้องมี Widget, Phone Link, หรือฟังก์ชั่นที่ใช้งานร่วมกับ Xbox
รองรับกับแอพต่างๆ
โดยเฉพาะการติดตั้งโอเอสแบบประหยัดเนื้อที่มากที่สุดบนคอมพิวเตอร์สเปกต่ำเหล่านี้ และควรรวมไปถึงการรองรับความเข้ากันได้ของแอพ ที่ไม่จำเป็นต้องรองรับแอพเต็มรูปแบบก็ได้ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ชิป ARM ที่มักเอามาใช้แค่ออกเน็ตเปิดเว็บแอพอย่างเดียว
หน้าจอล็อกสกรีนใหม่!
อีกจุดที่คนอยากจะเห็นคือหน้าจอล็อกสกรีนใหม่ ที่วินโดวส์ไม่เคยปรับปรุงมาตั้งแต่วินโดวส์ 8 มีโชว์แค่เวลา หรือแจ้งเตือนแค่บางแอพอย่างปฏิทินหรือข้อมูลอากาศที่ไม่ค่อยเป็นประโยชน์ จริงๆ ควรโชว์การแจ้งเตือนของทุกแอพเหมือนโทรศัพท์ที่เห็นได้แม้บังไม่ต้องล็อกอินเข้าเครื่อง
ผสานเข้ากับแอนดรอยด์ได้เนียนขึ้น
นอกจากนี้ก็มีเรื่องของการอยากเห็นโอเอสสำหรับแท๊บเล็ตหรือหน้าจอสัมผัสอย่างแท้จริง ลื่นไหลจริง ไม่ใช่แค่ปรับแต่งจากโอเอสปกติเล็กน้อยแบบนี้ การผสานเข้ากับโทรศัพท์แอนดรอยด์ได้เนียนยิ่งขึ้นเหมือนที่แอปเปิ้ลทำกับอีโคซิสเต็มของตัวเอง
ทั้งหมดนี้ก็คือสิ่งที่เราอาจจะเห็นได้ใน Windows 12 แต่จริงๆ แล้วฟีเจอร์และคุณสมบัติเหล่านี้อาจจะมาเร็วกว่าที่คาดผ่านทางระบบ Windows Update, หรือการอัปเดตด้านความปลอดภัย ก็เป็นได้ เรามาคอยติดตามกันต่อไปดีกว่า
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – Windowscentral