สำหรับปีหน้านี้ ยักษ์ใหญ่ด้านเน็ตเวิร์กอย่าง Cisco (ซิสโก้) ถือคติเอาดีทางด้าน “ซอฟต์แวร์” เป็นหลักชนิดที่เรียกว่าไม่มีอย่างอื่นมาแย่งซีนเลย ไม่ว่าจะเป็นแผนการผลักดัน SD-WAN, ความร่วมมือในการให้บริการผ่านคลาวด์, การพัฒนาโปรแกรมและแอพพลิเคชั่น, รวมทั้งการมุ่งมั่นที่จะทำยอดขายจากการจำหน่ายไลเซนส์สมาชิกผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ เป็นต้น
จากผลประกอบการไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2562 นั้น ซิสโก้มีการเติบโตด้านผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยรายรับจากซอฟต์แวร์กว่า 57 เปอร์เซ็นต์เป็นค่าสมาชิก นอกจากนี้รายรับจากส่วนธุรกิจซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นเพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์ขึ้นมาเป็น 1.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ส่วนธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์ความปลอดภัย ที่ส่วนใหญ่ก็อยู่ในรูปซอฟต์แวร์นั้น มีการเติบโตจากปีก่อนหน้า 11 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 651 ล้านดอลลาร์ฯ ด้วย
และเมื่อพิจารณารายรับรวมทั้งบริษัทนั้น ก็เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 9 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 9.9 พันล้านดอลลาร์ฯ โดยที่ธุรกิจหลักที่เป็นหม้อข้าวหม้อแกงอย่างเราท์ติ้งสวิตชิ่งก็โตขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 7.64 พันล้านดอลลาร์ฯ ด้วย ถือเป็นการเริ่มต้นปี 2562 ที่สวยงามพอสมควร
อย่างไรก็ดี ซิสโก้ได้วางวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจในปีหน้าไว้ดังต่อไปนี้
1. การมองไปยังคลาวด์มากกว่าเดิม
ด้วยการทำข้อตกลงกับ AWS ในการให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับผู้ใช้ Kubernetes ให้ครอบคลุมทั้งดาต้าเซ็นเตอร์ภายในองค์กรไปจนถึงบนคลาวด์ของ AWS ด้วย รวมทั้งความร่วมมือด้านแพลตฟอร์ม Kubernetes ระหว่าง Google และ Cisco
2. การลุยตลาด SD-WAN อย่างจริงจัง
หลังการล่าซื้อบริษัทด้านนี้ไปหลายเจ้า โดยเฉพาะ Viptela ที่ทำให้ได้เทคโนโลยีออโตเมชั่นมาใช้กับผลิตภัณฑ์ SD-WAN ของตนเองอย่าง DNA Center
3. การทำให้ผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยใช้ได้ง่ายและสะดวกขึ้น
จากการซื้อกิจการ Duo Security ทำให้มีการผนวกเอาบริการพิสูจน์ตัวตนผ่านคลาวด์มาใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ของตนเอง และขยายความครอบคลุมขึ้นไปถึงบนคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้เชื่อมต่อกับแอพหรือไดรฟ์เน็ตเวิร์กได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
4. มุ่งสู่อีเธอร์เน็ตแบบไฮสปีดขึ้นไปอีก
ด้วยการพัฒนาสวิตช์ใหม่ 4 รุ่นสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งในกลุ่ม Nexus 9000 และ 3400-S เน้นรองรับความเร็วระดับ 400G
5. เอาดีกับรายได้จากค่าสมาชิกซอฟต์แวร์
หลังจากเปลี่ยนโมเดลธุรกิจมาเป็นการจำหน่ายซอฟต์แวร์และค่าสมาชิกมากขึ้น ปีหน้านี้ก็จะเน้นแปลงผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในรูปโมเดลนี้มากขึ้นด้วย เช่น ด้านความปลอดภัยที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องโหลดงานยุคใหม่อย่างคลาวด์, SD-WAN, IoT, และความสามารถในการมองเห็นเครือข่าย
สำหรับในประเทศไทยทางซิสโก้ ก็ได้จัดงานแถลงข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวในปีที่ผ่านมา พร้อมกล่าวถึงเทคโนโลยีใหม่ที่จะเกิดขึ้น ตลอดจนการรุกตลาดในกลุ่มที่น่าสนใจ
คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ กรรมการผู้จัดการซิสโก้ประจำประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน ได้กล่าวว่าปี 2018 นี้ถือว่าเป็นปีที่ดีที่สุดของซิสโก้เลยทีเดียว อันเนื่องจากการขยายตัวของกลุ่มตลาดบางส่วนผ่านทางแนวคิด Digitial Transformation (DX) โดยในปีนี้เริ่มเห็นหลายองค์กรขยับตัว และในปี 2020 คาดการณ์ว่ากว่า 75% ขององค์กรจะต้องปรับตัวสู่โลกของ DX มากขึ้น ซึ่งทำให้ผู้บริหารขององค์กรได้เพิ่มงบประมาณให้กับแผนกด้านดิจิตอลและแผนกไอทีในการปรับปรุงเทคโนโลยีให้ดีขึ้นเป็นเงา
โดยคุณวัตสัน ยังกล่าวต่อไปว่ากลุ่มธุรกิจต่างๆ นั้นจะต้องปรับตัวมากขึ้น เพราะเม็ดเงินจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ในส่วนของซิสโก้นั้นคุณวัตสันบอกว่าในปี 2019 ที่จะมาถึงจะรุกเข้าไปตลาดอันประกอบด้วย ตลาดธุรกิจด้านการเงินการธนาคาร, กลุ่มธุรกิจด้านอุตสาหกรรมการผลิต, ส่วนงานของภาครัฐ และกลุ่มภาคการศึกษา เป็นต้น ทั้งสี่กลุ่มนี้จะรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนเอาเทคโนโลยีที่ซิสโก้มีและที่จะเพิ่มเติมมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ มัลติ-คลาวด์, เทคโนโลยีซีเคียวริตี้แบบสมบูรณ์, แพลตฟอร์มด้าน AI และ ML และการสร้างโซลเชียล อินโนเวชั่นที่กระทบไปในวงกว้างมากขึ้น
ที่มา : Networkworld และ งานแถลงข่าว Media Kickoff