ช่างถ่ายภาพวิดีโออิสระ Dave Coope ยื่นฟ้อง Adobe ในข้อหาที่มีปัญหาบนซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอชื่อดัง Premiere Pro จนทำให้ไฟล์งานที่สั่งสมมาหลายปีของเขาโดนลบเกลี้ยงแบบถาวร โดยอธิบายกับศาลว่าสาเหตุมาจากตัวอัพเดทของโปรแกรมเวอร์ชั่น 11.1.0 เมื่อเมษายนปีที่แล้ว
ประเด็นคือบั๊กดังกล่าวที่เกิดกับกลไกการจัดการไฟล์นั้น ดันไปลบไฟล์วิดีโอกว่า 1 แสนไฟล์ที่มีความยาวรวมกันกว่า 500 ชั่วโมง มูลค่ารวมกว่า 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งๆ ที่ตัวซอฟต์แวร์เองไม่ควรมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตตั้งแต่แรก
อโดบี้กล่าวว่าฟีเจอร์ล้างแคชของซอฟต์แวร์ที่ออกมาเพื่อช่วยเคลียร์พื้นที่บนดิสก์หลังจากที่มีการแคชข้อมูลสำรองปริมาณมหาศาลระหว่างแก้ไขวิดีโอ แต่ทาง Cooper ยืนยันว่าโดนล้างข้อมูลมากกว่าแคชที่โปรแกรมสร้าง โดยลามไปถึงเอกสารและข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่โดนลบ “แบบถาวร” แม้จะไม่ได้อยู่โฟลเดอร์ Media Cache หรือโฟลเดอร์ย่อยภายใน
เขากล่าวด้วยว่า ถ้าไฟล์ที่โดนลบมีแค่ไฟล์ที่เคยแก้ไขผ่าน Premiere Pro ก็ยังพอทำใจได้ แต่นี่เล่นลบหมดแม้แต่วิดีโอที่ไม่เคยยุ่งกับผลิตภัณฑ์ของอโดบี้ด้วย จึงเป็นเหตุสำคัญให้เขาต้องฟ้องร้องครั้งนี้ แถมยังได้ยินว่าไม่เพียงแค่เขาเท่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อปัญหาดังกล่าวส่วนทางฝั่งอโดบี้ที่รีบออกแพ็ตช์เวอร์ชั่น 11.1.1 ก็กล่าวว่าได้แก้ปัญหานี้แล้ว แต่แนะนำให้แยกไฟล์วิดีโอต้นฉบับออกห่างๆ จากโฟลเดอร์ Media Cache เพื่อความปลอดภัย
ที่มา : Hackread