หน่วยงานความปลอดภัยด้านยานยนต์แห่งสหรัฐอเมริกา (NHTSA) ประกาศเมื่อวันอังคารว่า พวกเขาได้เริ่มกระบวนการที่จะบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เพื่อป้องกันผู้ที่มึนเมาจากการสตาร์ทรถยนต์
ในปี 2021 สภาคองเกรสได้กำหนดให้ NHTSA กำหนดมาตรฐานเทคโนโลยีแบบพาสซีฟ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกี่ยวข้องกับการเมาแล้วขับ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 10,000 รายต่อปี โดยกฎหมายกำหนดให้ต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยด้านเทคโนโลยีภายในเดือนพฤศจิกายน 2024 หากเทคโนโลยีดังกล่าวพร้อมใช้งาน
ขณะนี้มีเทคโนโลยีหลายอย่างที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งสามารถป้องกันผู้ที่มีความบกพร่องทางการขับขี่เนื่องจากเมาสุราหรือสารเสพติดจากการสตาร์ทรถยนต์ ตัวอย่างเช่น
เซ็นเซอร์ตรวจจับแอลกอฮอล์: เซ็นเซอร์เหล่านี้จะวิเคราะห์ลมหายใจของผู้ขับขี่เพื่อตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ และจะป้องกันไม่ให้สตาร์ทรถยนต์หากปริมาณแอลกอฮอล์เกินขีดจำกัดที่กำหนดไว้
เซ็นเซอร์ตรวจจับการสัมผัส: เซ็นเซอร์เหล่านี้จะตรวจจับแอลกอฮอล์ผ่านผิวหนังของผู้ขับขี่ และจะทำงานคล้ายกับเซ็นเซอร์ตรวจจับแอลกอฮอล์
กล้องติดตามการเคลื่อนไหวของดวงตา: กล้องเหล่านี้จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของดวงตาของผู้ขับขี่เพื่อหาสัญญาณของความมึนเมา
การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้อาจส่งผลอย่างมากต่อความปลอดภัยบนท้องถนนและช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการดื่มสุราและสารเสพติดได้อย่างมาก แม้ว่าอาจมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด แต่ประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น คือ ช่วยชีวิตผู้คนนับหมื่นนั้นมีมากเกินกว่าข้อกังวลเหล่านี้
NHTSA คาดว่าจะออกกฎระเบียบขั้นสุดท้ายภายในสิ้นปี 2023 โดยกำหนดให้ผู้ผลิตรถยนต์ติดตั้งเทคโนโลยีป้องกันการเมาแล้วขับในรถยนต์รุ่นใหม่ทุกคันภายในปี 2026
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – Theguardian
