ล่าสุด ผู้ให้บริการแอพเรียกรถรับส่งชื่อดัง Uber ก็ต้องยอมจ่ายค่าปรับเป็นมูลค่ารวมกว่า 148 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับกรณีข้อมูลรั่วไหลเมื่อปี 2559 ที่แฮ็กเกอร์เข้ามาขโมยข้อมูลของผู้ใช้กว่า 57 ล้านราย แม้ก่อนหน้านี้บริษัทจะแอบจ่ายสินบนแฮ็กเกอร์เป็นเงินกว่าแสนเหรียญเพื่อให้เก็บข่าวเงียบก็ตาม
การแฮ็กครั้งนั้นมีข้อมูลส่วนตัวรั่วทั้งชื่อ, ที่อยู่อีเมล์, รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ของคนขับและลูกค้าในช่วงเวลาใช้บริการเกือบหนึ่งปีเต็ม แต่เรื่องมาแดงใหม่หลังจากเปลี่ยนเจ้าของมาอยู่ภายใต้ Dara Khosrowshahi จนโดนรุมเล่นงานจากหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ
สุดท้าย Uber ก็ต้องตกลงยอมความกับทางการทั้ง 50 รัฐ รวมทั้งเขตปกครองพิเศษ District of Columbiaด้วยค่าปรับข้างต้น ซึ่งถือเป็นโทษปรับที่รุนแรงที่สุดที่เป็นการปรับจากหลายรัฐพร้อมกัน แต่ค่าปรับนี้ไม่ได้แบ่งเฉลี่ยเท่ากันทุกรัฐ ตัวอย่างเช่น โร้ดไอร์แลนด์ได้ค่าปรับ 8 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่อริโซน่าได้ 2.7 ล้าน และนิวยอร์กได้ถึง 5.1 ล้าน เป็นต้น
แต่รัฐที่ได้ส่วนแบ่งค่าปรับมากที่สุดคือแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นเงินถึง 26 ล้านดอลลาร์ฯ เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการดำเนินคดี โดยอัยการประจำรัฐกล่าวว่า การตัดสินใจปกปิดความผิดของอูเบอร์นั้นถือเป็นการละเมิดกฎหมายที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของสาธารณะเป็นอย่างมาก
ที่มา : Theregister