เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นการครบรอบ 1 ปี หลังจากที่ทาง Trend Micro ได้ปิดดีลการเข้าซื้อกิจการธุรกิจในส่วนของ TippingPoint จากทาง Hewlett Packard Enterprise โดยในปีแรกหลังจากควบรวมกิจการนั้น Trend Micro ไม่เพียงแค่รักษาประสิทธิภาพการบริการ และความต่อเนื่องทางธุรกิจไว้ได้เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพิ่มขึ้น จนทำให้ส่วนธุรกิจ TippingPoint มีการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งส่วนของธุรกิจและอันดับการเป็นผู้นำในตลาด
อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ Trend Micro TippingPoint ได้รับยกย่องให้เป็น “Leader” ในรายงาน 2017 Gartner Magic Quadrant ในด้านระบบการป้องกันและตรวจจับการบุกรุก ทั้งส่วนของ “ความสมบูรณ์แบบของวิสัยทัศน์องค์กร” และ “ความสามารถในการทำงาน”1 นอกจากนี้ Trend Micro ยังได้รับตำแหน่ง “แนะนำให้ใช้” จากการทดสอบความสามารถของระบบป้องกันการบุกรุกแบบ Next-Gen โดย NSS Labs ประจำปี 2559 อีกด้วย
ในการการันตีความสำเร็จของการควบรวมกิจการครั้งนี้ Trend Micro ได้เซ็นสัญญาว่าจ้างพนักงานเดิมของ TippingPoint มากกว่า 300 ท่าน รวมถึงยังให้ความต่อเนื่องในการบริการแก่ลูกค้าเดิมของ TippingPoint โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่กว่า 2,500 ราย โดยในเดือนมีนาคมนี้ ได้จัดให้ทีมงานเข้ามาอยู่ในสำนักงานแห่งใหม่ ที่มีศูนย์การวิจัยทางเทคนิคชั้นสูงอย่างสมบูรณ์แบบสำหรับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส
จากปีที่ผ่านมานั้น เสถียรภาพทางธุรกิจที่ทาง Trend Micro ได้ดำเนินการสร้างไว้ทั้งหมดข้างต้น ได้ส่งผลให้สามารถสานต่อนวัตกรรมอันเป็นตำนานของทาง TippingPoint พร้อมทั้งยกระดับของเดิมให้ดีขึ้นอีกหลายเท่า ด้วยการผสานการทำงานเข้ากับผลิตภัณฑ์ของ Trend Micro ที่สร้างความโดดเด่นและความเชื่อมั่นให้เพิ่มขึ้นมากในตลาดความปลอดภัยบนเครือข่ายระดับองค์กร อย่างเช่น TippingPoint Next-Generation IPS (NGIPS) ที่นำมาผสานเข้ากับเทคโนโลยีป้องกันอันตรายขั้นสูงของ Deep Discovery เพื่อให้ได้โซลูชั่นป้องกันภัยบนเครือข่ายที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา TippingPoint ได้กลายเป็นโซลูชั่น NGIPS โซลูชั่นแรก ที่ให้ throughput สูงถึง 100Gbps โดยมีความหน่วง (Latency) ต่ำ สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ประสิทธิภาพสูงและเครือข่ายระดับองค์กรโดยเฉพาะ นอกจากนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ได้มีการเพิ่มเทคโนโลยี Machine Learning เข้ามายัง TippingPoint ทำให้เราเป็นผู้จำหน่าย NGIPS แบบ Standalone รายแรกที่สามารถตรวจจับและสกัดกั้นการโจมตีบนเครือข่ายโดยตรงได้แบบเรียลไทม์ โดยใน 12 เดือนที่ผ่านมานี้ Trend Micro ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรใหม่ถึง 16 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับ Machine Learning ที่นำมาใช้ยกระดับความอัจฉริยะของระบบความปลอดภัย
อ่านข่าว : IPS รุ่นใหม่จาก Trend Micro รองรับความเร็วสูงขึ้นอีกระดับ
การต้อนรับ TippingPoint เข้ามานี้ ยังได้นำเอาระบบความปลอดภัยอัจฉริยะชั้นนำอันทรงพลัง และหน่วยงานวิจัยช่องโหว่อย่าง Digital Vaccine ® Labs (DVLabs) และโครงการตั้งค่าหัวล่าบั๊ก Zero Day Initiative (ZDI) มาอยู่ภายใต้ครอบครัวของเราด้วย ซึ่งในปีที่ผ่านมา ZDI ได้ช่วยค้นหาช่อบโหว่ถึง 678 รายการในผลิตภัณฑ์ของผู้จำหน่ายกว่า 48 ราย โดยยังมีอีกกว่า 400 รายการที่รอกำหนดเวลาเปิดเผยต่อสาธารณะ ความสามารถในการค้นพบช่องโหว่ก่อนคนอื่นเหล่านี้ได้ยกระดับความสามารถในการปกป้องบั๊กแบบ Zero-day ของ Trend Micro เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างเช่น ในปี 2559 ที่ผ่านมานั้น ลูกค้าของ Trend Micro TippingPoint ได้รับการปกป้องล่วงหน้าก่อนที่ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์จะออกแพ็ตช์มาเป็นทางการถึง 57 วันโดยเฉลี่ย และในเดือนมีนาคมนี้ ทางโครงการ ZDI ก็ได้สานต่อภารกิจในการส่งเสริมการค้นหาช่องโหว่ด้วยการฉลองครบรอบ 10 ปี การแข่งขันการแฮ็กระบบ Pwn2Own ด้วยเงินรางวัลมากกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 5 ประเภทการแข่งขัน ที่จะจัดขึ้นในงานประชุมด้านความปลอดภัย CanSecWest ที่จะถึงนี้
“การซื้อกิจการของ TippingPoint นั้นทำให้เราได้โอกาสที่แตกต่างในการเพิ่มเทคโนโลยี NGIPS ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมกับได้ความเชี่ยวชาญในการวิจัยช่องโหว่และอันตรายในระดับชั้นนำของโลก เพื่อยกระดับสายผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยทั้งหมดของเรา” เควิน ซิมเซอร์ รองประธานบริหารฝ่ายการขายการตลาด, และการพัฒนาธุรกิจของ Trend Micro กล่าว “จากช่วงการเปลี่ยนถ่ายที่ผ่านมานั้น เราได้เน้นย้ำถึงการขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆขณะที่ยังรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ และให้ความช่วยเหลือและตอบรับกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ด้วยมาตรฐานเดียวกับที่ทุกคนคาดหวังจากชื่อ Trend Micro”