TP-Link ผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายชื่อดัง เผชิญข้อกล่าวหาจากสหรัฐฯ เกี่ยวกับความปลอดภัยของเราเตอร์ และความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน หลังมีรายงานว่าบริษัทกำลังถูกพิจารณาให้แบนในสหรัฐฯ รายงานจาก The Wall Street Journal ระบุว่าหน่วยงานรัฐบาลกลางของสหรัฐฯ กำลังสืบสวนว่า TP-Link อาจเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากความล่าช้าในการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในอุปกรณ์ของบริษัท
TP-Link ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าอุปกรณ์ของบริษัทมีความปลอดภัยไม่ด้อยกว่าแบรนด์อื่น ๆ โดยโฆษกของบริษัทกล่าวว่า “เราเตอร์ของเราเป็นที่นิยมในตลาดสหรัฐฯ แต่ไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าอุปกรณ์ของเรามีช่องโหว่มากกว่าแบรนด์อื่น เราให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์”
TP-Link ระบุว่าบริษัทได้ดำเนินการเชิงรุกเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับห่วงโซ่อุปทาน และได้ลงนามในโครงการ “Secure by Design” ของสำนักงานความปลอดภัยทางไซเบอร์และโครงสร้างพื้นฐานแห่งสหรัฐอเมริกา (CISA) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย “เราใช้กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและการทดสอบที่เข้มงวด รวมถึงแก้ไขช่องโหว่ทันทีที่พบ และยังคงประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยต่อการดำเนินงานและห่วงโซ่อุปทานในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร” โฆษกกล่าว
TP-Link ถูกกล่าวหาว่าอุปกรณ์ของบริษัทถูกใช้ในแคมเปญโจมตีทางไซเบอร์ โดย Microsoft ระบุว่าเครือข่าย CovertNetwork-1658 ซึ่งใช้เราเตอร์ TP-Link ที่ถูกแฮ็ก ถูกนำไปใช้โจมตีบัญชี Microsoft 365, VPN และ SSH แม้จะถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน TP-Link ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างหนักแน่น พร้อมยืนยันว่าจะทำงานร่วมกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยที่ยังคงมีอยู่ บริษัทกล่าวว่า “รัฐบาลจีนไม่มีอิทธิพลต่อการออกแบบและการผลิตอุปกรณ์ของเรา” พร้อมแสดงความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากลอย่างเคร่งครัด
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – ITPro
