ถ้าเราเลือกระบบสายเคเบิลที่ตรงตามมาตรฐานสากล ก็มั่นใจได้ว่าสามารถนำไปใช้กับรูปแบบการใช้งานต่างๆ ที่ออกแบบมาสำหรับสายเคเบิลประเภทนั้นๆ ได้ ผู้ออกแบบอุปกรณ์เครือข่ายต่างใช้สเปกตามมาตรฐานแต่ละประเภทในการสร้างและตรวจวัดอุปกรณ์ของตัวเอง ทำให้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเหล่านี้อาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพถ้านำไปใช้กับระบบสายเคเบิลที่ไม่ได้มาตรฐาน
แต่มาตรฐานนี้กำหนดอย่างเข้มงวดจนครอบคลุมกรณีที่เลวร้ายมากที่สุดด้วย นั่นคือ แม้จะเป็นการประกันว่าสามารถทำงานร่วมกับสายเคเบิลมาตรฐานได้เต็มประสิทธิภาพ 100% แต่ก็อาจทำงานร่วมกับสายเคเบิลที่ไม่ได้มาตรฐานได้ตามปกติด้วยเช่นกัน
เราเข้าใจดีถึงความกดดันในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่เกินสเปกมาตรฐานสายเคเบิล (ประมาณว่าลองต่อให้ยาวกว่านั้นอีกหน่อยสิ เผื่อได้!) ซึ่งถ้าคุณเลือกที่จะเชื่อมต่อเกินค่าสเปกอย่างเช่น การหันไปใช้สายพิเศษที่ผู้ผลิตอ้างว่าลากได้ยาวกว่ามาตรฐานแล้ว ก็ต้องระลึกก่อนเลยว่ารูปแบบการติดตั้งดังกล่าวไม่ได้สอดคล้องตามมาตรฐานตั้งแต่ต้น ทำให้การใช้งานจริงอาจได้อัตรารับส่งข้อมูลไม่มากเท่าที่ควรจะเป็น อาจใช้งานได้แค่กับสายเคเบิลบางสายหรือบางอุปกรณ์ กับสภาพแวดล้อมบางอย่าง หรือจำกัดการใช้กับอุปกรณ์เครือข่ายประเภทใดประเภทหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีผู้ผลิตสายเคเบิลบางรายที่โฆษณาว่าสายตัวเองได้ประสิทธิภาพเกินมาตรฐานสากล ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเราไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะนำไปใช้กับอุปกรณ์เครือข่ายมาตรฐาน สำหรับผู้ผลิตกลุ่มนี้ เราแนะนำว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ความรู้แก่ลูกค้าของตัวเองเกี่ยวกับโซลูชั่นที่จำหน่าย โดยเฉพาะข้อจำกัดในการใช้สายเคเบิลที่ไม่ได้ตรงตามมาตรฐานกำหนด
ทางฝั่งลูกค้าเอง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่จำเป็นต้องทดสอบสายเคเบิลเลยเพียงเพราะเป็นสายที่อยู่นอกมาตรฐานสากล เนื่องจากสายที่โฆษณาว่าสามารถใช้เชื่อมต่อได้ไกลกว่ามาตรฐานนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การคุ้มครองตามมาตรฐานสากล ผู้ผลิตสายเหล่านี้จึงมีการออกใบรับประกันที่ระบุถึงรูปแบบการใช้งานต่างๆ ที่รองรับ ที่ผู้ผลิตสามารถให้การช่วยเหลือซัพพอร์ตได้ และระบุถึงเกณฑ์การใช้งานที่เหมาะสมที่จะยังได้รับการรับประกัน
ดังนั้น การทดสอบสายพวกนี้จึงถือว่าสำคัญกว่าปกติเสียอีกโดยเฉพาะเมื่อคุณพยายามรีดประสิทธิภาพจากสายเคเบิลให้ได้เกินกว่าที่มาตรฐานสากลระบุไว้ ไม่ว่าจะมีการรับประกันจากผู้ผลิตว่าสามารถลากสายได้ยาวกว่าสายทั่วไปก็ตาม อย่าลืมว่าถ้าคุณไม่ได้ทดสอบตามสเปกที่ผู้ผลิตอ้างก่อน แล้วสุดท้ายพบว่าใช้งานไม่ได้จริงตามที่ต้องการแล้ว อย่างน้อยคุณก็เสี่ยงที่ต้องรื้อและวางระบบใหม่ทั้งหมด
ทาง Fluke เองก็ได้เพิ่มค่าเกณฑ์สำหรับทดสอบแบบพิเศษที่จำเพาะของแต่ละผู้ผลิตไว้ในเครื่องทดสอบสายเคเบิลทองแดงในซีรี่ย์ DSX CableAnalyzer ที่ใช้ในการทดสอบผ่าน/ไม่ผ่านสำหรับลิงค์แชนแนลเชื่อมต่อที่ใช้สายพิเศษที่อ้างว่าลากได้ไกลกว่าปกติโดยเฉพาะ คุณเพียงเลือกค่าลิมิตพวกนี้บนเครื่องเท่านั้น โดยสามารถดูจากเอกสาร Versiv Limit Lines ฉบับล่าสุด แล้วคลิกที่ “Vendor” ในหน้าดัชนีหน้าที่ 1 เพื่อดูรายละเอียด
สุดท้ายแล้ว วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะรับประกันว่าสามารถนำมาใช้งานได้จริง ทำงานร่วมกันได้ รองรับแม้จะเปลี่ยนอุปกรณ์ก็ตามก็คือ การใช้ระยะและค่าจำกัดตามมาตรฐานสากล แต่ถ้าเกิดคุณหรือแม้แต่ลูกค้าของคุณยังต้องการพิจารณาใช้การลากสายแบบยาวเป็นพิเศษ ทาง Fluke ก็แนะนำให้คุณทำงานร่วมกับผู้ผลิตสายเคเบิลเพื่อทำความเข้าใจแนวทางการใช้งาน ข้อจำกัด และการรับประกันสำหรับสายยาวพิเศษของเจ้านั้นๆ รวมทั้งการใช้ค่าลิมิตสำหรับสายที่ลากยาวกว่าปกติบนเครื่องทดสอบ DSX เวลาทดสอบผ่าน/ไม่ผ่าน