หน้าแรก Data Center Server Supermicro เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ประกอบด้วยระบบ SuperBlade และ BigTwin

Supermicro เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ประกอบด้วยระบบ SuperBlade และ BigTwin

แบ่งปัน

Supermicro เปิดตัวโซลูชั่นศูนย์ข้อมูลและระบบคลาวด์ในตระกูล Resource Saving ซึ่งประกอบด้วยระบบ SuperBlade และ BigTwin แบบ multi-node ตลอดจนโซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลแบบ composable ที่มาพร้อมเทคโนโลยี NVMe แบบออลแฟลช พร้อมด้วย Supermicro RSD 2.1 ที่งาน Data Center Expo Tokyo 2018

แต่เดิมนั้นการปรับเพิ่มขนาดทรัพยากรศูนย์ข้อมูลมักจะต้องอาศัยการเพิ่มเซิร์ฟเวอร์โหนด ที่ให้สัดส่วนการประมวลผล การวางเครือข่าย และการเก็บข้อมูลแบบตายตัว ทรัพยากรเหล่านี้มีวงจรชีวิตแตกต่างกันไป การอัพเกรดเซิร์ฟเวอร์โหนดทั้งชุดจึงทำให้ต้องเสียประโยชน์จากการลงทุนมูลค่าสูงไปก่อนถึงเวลาอันควร ทั้งยังใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างไม่เต็มที่ ด้วยเหตุนี้ โซลูชั่นจัดเก็บข้อมูลด้วย NVMe แบบแยกส่วน (disaggregated) ที่ช่วยประหยัดทรัพยากรของ Supermicro เช่น NVMe-oF (NVMe over Fabrics) จึงเป็นโซลูชั่นที่มีความสำคัญยิ่ง สำหรับลูกค้าที่ต้องการสร้างศูนย์ข้อมูลระดับ hyper-scale ให้ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“Supermicro ได้ดำเนินการติดตั้งระบบ Resource Saving ตามศูนย์ข้อมูลระดับ Fortune 100 ไปแล้วหลายแห่ง” ชาร์ลส์ เหลียง ประธานและซีอีโอของ Supermicro กล่าว “ในฐานะที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีประหยัดพลังงานในระบบเซิร์ฟเวอร์และเทคโนโลยีกรีนคอมพิวติ้ง บัดนี้ Supermicro ช่วยให้ประหยัดขึ้นได้อีก ด้วยการยืดอายุระบบย่อยของเซิร์ฟเวอร์ ไม่ว่าจะเป็นตู้เก็บ สายเคเบิล ระบบเครือข่าย ส่วนเก็บข้อมูล พัดลม และแหล่งจ่ายกำลัง ส่งผลให้ประหยัดค่าฮาร์ดแวร์สูงสุด 60% ทั้งยังกินไฟน้อยลง และลดการก่อขยะอิเล็กทรอนิกส์ตลอดทั้งวงจร ซึ่งช่วยให้บรรดาศูนย์ข้อมูลประหยัดต้นทุนด้านพลังงานได้หลายล้าน ขณะเดียวกันก็ช่วยอนุรักษ์โลกของเราให้กับคนรุ่นต่อไป”

โซลูชั่น 6U SuperBlade แบบแยกส่วนใหม่ล่าสุดจาก Supermicro ปลดล็อคการสื่อสารระหว่างกันของระบบย่อยเซิร์ฟเวอร์หลัก ๆ ส่งผลให้สามารถอัพเกรด CPU + Memory, I/O, Enclosure, Storage และ Power/Cooling ได้อย่างอิสระ โดยสามารถเปลี่ยนองค์ประกอบแต่ละหน่วยได้ในเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อยกระดับสมรรถนะและประสิทธิภาพให้ถึงขีดสุด โดยแยกออกจากวงจรการยกระดับเซิร์ฟเวอร์แบบ monolithic ทั้งหมด