เรากำลังก้าวเข้าสู่โลกของสมาร์ทแฟคทอรีกันอย่างแท้จริงแล้ว ทั้งนี้เพราะหลายโรงงานเริ่มลงเงินกับสมาร์ทเทคโนโลยีอย่างหนัก หลัง IoT พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถช่วยธุรกิจเก็บรวบรวมข้อมูลบิ๊กดาต้ามหาศาลจากทุกซอกทุกมุมมาประมวลผลเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยผลักดันกำไรมหาศาลตามไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการใช้พลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หรือใช้กับงานบำรุงรักษา (PM) เครื่องจักร โดยเฉพาะโลกของหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่คาดว่าจะโตไม่หยุดไปแตะระดับ 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2026 นี้
ทำไมต้องเป็น Private 5G Network
แต่รู้ไหมว่า กุญแจที่จะปลดล็อกทั้งเรื่องออโตเมชั่นและผลักดัน AI ด้านอุตสาหกรรมให้ทะลุเป้าได้อย่างว่าก็คือ เทคโนโลยีเครือข่าย 5G “ส่วนตัว” (Private 5G) ที่ให้ความเร็วและความเสถียรในการสื่อสารขึ้นอีกระดับแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลก IoT
เหตุผลที่ต้องเป็น 5G ก็เพราะไว-ไฟเจอทั้งสัญญาณรบกวนและปัญหาความปลอดภัย จะรอไว-ไฟ 7 ไหวไหมก็กระไรอยู่ ก็มี 5G นี่ล่ะที่เทคโนโลยีพร้อมใช้ แค่เอามาปรับแต่งใช้ภายในโรงงานเป็นการส่วนตัว ซึ่งคาดว่าตลาดเครือข่ายส่วนบุคคลจะแตะ 1.09 แสนล้านเหรียญฯ ในปี 2030
ประโยชน์ของ 5G ภายในองค์กรมีมากมาย ตั้งแต่ความเร็วการโอนถ่ายข้อมูลที่เร็วสุด ดีเลย์น้อยสุด เหมาะกับงานโรงงานโดยเฉพาะ อุปกรณ์ก็มีพร้อมเชื่อมต่อได้ไม่จำกัดพื้นที่ สัญญาณซอกซอนได้แทบทุกจุดไม่อับสัญญาณเหมือนการใช้ไว-ไฟ
กรณีศึกษาการใช้งานจริง
นอกจากนี้ การที่อุปกรณ์ทุกตัวเชื่อมต่อเข้ากันบนเครือข่ายส่วนตัววงเดียวกัน ทำให้สื่อสารระหว่างกันได้สะดวกรวดเร็ว แม้จะเป็นข้อมูลมหึมาอย่างการสตรีมวิดีโอก็ตาม เร็วกว่า 4G ถึง 20 เท่า เสถียรเทียบเท่าสายแลน นั่นคือ การให้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นคนประมวลผลข้อมูลซับซ้อนอย่างอนาไลติกและ AI ส่งหากันไปมาก็จะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไปภายใต้เครือข่ายที่เร็วมากนี้ แทบจะจินตนาการการประยุกต์ใช้งานได้แทบไม่มีที่สิ้นสุด
อย่างกรณีเครือข่ายที่เต็มไปด้วยเซ็นเซอร์มากมาย ก็สามารถสื่อสารระหว่างกันเพื่อดูข้อมูลทำ PM ได้ง่ายๆ หรือการทำให้โรงงานใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และออโตเมชั่นได้มีประสิทธิภาพดีขึ้นมาก ไปจนถึงการใช้แว่น AR/VR ทำงานได้สบายๆ ทุกที่
ไปจนถึงการจัดเส้นทางบินของโดรน การสตรีมวิดีโอจากเครื่องจักรแบบเรียลไทม์ การประมวลผลตรวจจับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยจากภาพวิดีโอของเครื่องจักรแบบเรียลไทม์ เป็นต้น
มีบางแห่งทำกล้องตรวจภาพด้วย AI สำหรับใช้ในไลน์ผลิตเพื่อยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพการทำงาน แถมเปิดทางให้บริษัทอย่างธุรกิจก่อสร้างใช้เข้ามาควบคุมเครื่องจักรจากระยะไกลแบบต่อเนื่องไม่ขาดตอน เสถียรสุดๆ ได้ด้วย
แต่ถึงจะมองเห็นโอกาสมากมายเหล่านี้ ปัจจุบันก็ยังมีโรงงานเพียงแค่ 40% ที่เข้าใจบืบทบาทของเครือข่าย 5G ส่วนบุคคลในการสร้างโรงงานดิจิตอลอัจฉริยะในอนาคต ทั้งๆ ที่ 5G ส่วนตัวนี้มีทั้งแบบที่แยกสร้างเป็นของตัวเองต่างหาก กับแบบที่แชร์กับโครงข่าย 5G ของผู้ให้บริการที่มีอยู่แล้ว
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – NCP