หลังมีข่าวว่าได้เชิญพนักงานออกกว่า 1,800 คน ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานในส่วนธุรกิจของเซิร์ฟเวอร์ SPARC และ Solaris Unix และเพิ่งประกาศยกเลิกแผนที่จะออก Solaris รุ่นใหม่หรือ Solaris 12 ไม่นาน จนคนนึกว่าเตรียมยุบผลิตภัณฑ์ไปแล้วนั่น
ล่าสุด Oracle ออกมาแถลงว่า จะเปลี่ยนรูปแบบการออกเวอร์ชั่นใหม่ของ Solaris เป็นแบบที่มีการอัพเดตอย่างต่อเนื่องผ่านคลาวด์ หรือใช้โมเดล Continuous Delivery แทน
ด้วยการอัพเดตซอฟต์แวร์แบบ Continuous Delivery นี้ แทนที่จะออกซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า “Build” ทุกๆ 6 เดือนอย่าง Ubuntu Linux หรือทุกๆ 2 – 3 ปีอย่างวินโดวส์รุ่นที่อัพขึ้นมาก่อนถึง 10 ในปัจจุบันนั้น จะใช้การอัพเดตโค้ดต่างๆ ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง ออกมาจากผู้ผลิตผ่านทางคลาวด์แทน ซึ่งถือว่าตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการการอัพเดตอย่างรวดเร็วตลอดเวลา
Oracle กล่าวว่า ฟีเจอร์และฟังก์ชั่นการทำงานใหม่ๆ จะถูกส่งมาอัพเดตยัง Oracle Solaris ของลูกค้าในลักษณะเป็นรุ่นย่อยๆ แทนเวอร์ชั่นใหม่ครั้งใหญ่แบบที่แล้วๆ มา ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีความคล่องตัวและปรัยตัวกับการเปลี่ยนแปลงระหว่างเวอร์ชั่นย่อยๆ ได้ราบรื่นมากกว่า รวมถึงเป็นการประกันความคุ้มค่าในการลงทุนด้วยในตัว จากการที่ซื้อรุ่น Solaris 11 แล้วยังได้รับการอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
แม้แผนการนำ SPARC และ Solaris ขึ้นมาอยู่บน Oracle Cloud นี้ฟังดูเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนและน่าฟัง แต่ทว่า การจะให้ได้การผสานการทำงานหรือแม้แต่การอัพเดตต่อเนื่องผ่านคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพจริงนั้น ต้องอาศัยทีมงานที่เข้มแข็งในการคอยทดสอบ, ซัพพอร์ต, พัฒนา, และดำเนินงานในการออกรุ่นอัพเดตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากที่เพิ่งไล่พนักงานออกยกเซ็ตนั้นทำให้เกิดข้อกังขาในเรื่องนี้พอสมควร
ที่มา : http://www.zdnet.com/article/oracle-solaris-limps-on-in-continuous-delivery-mode/
