ประธานาธิบดี Joko Widodo แห่งอินโดนีเซีย ได้สั่งการให้ทำการตรวจสอบศูนย์ข้อมูลของรัฐบาล หลังจากพบว่าข้อมูลส่วนใหญ่ที่จัดเก็บไว้ไม่ได้มีการสำรองข้อมูลไว้
จากการตรวจสอบและมีการเปิดเผยว่าอินโดนีเซียไม่มีแผนสำรองข้อมูลเกิดขึ้นหลังจากการถูกโจมตีด้วย Ransomware ที่ศูนย์ข้อมูลแห่งชาติชั่วคราว (PDNS) ของประเทศ เมื่อในวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อบริการดิจิทัลเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่รัฐบาลรายงานว่า มีการใช้มัลแวร์ LockBit เวอร์ชันใหม่ที่ชื่อว่า Brain Cipher ในการโจมตีครั้งดังกล่าว
โดยข้อมูลและไฟล์ที่ถูกเรียกค่าไถ่นั้นคิดเป็นเงิน 131 พันล้านรูเปียะห์ (หรือประมาณ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและสารสนเทศ นาย Budi Arie Setiadi กล่าวว่าทางรัฐบาลจะไม่จ่ายค่าไถ่พร้อมทั้งกำลังให้กำลังพยายามที่จะถอดรหัสข้อมูลนั่นอยู่
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – Theregister