Huawei ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทในโลก ที่มีนวัตกรรมด้านไอทีซีทีครบถ้วนที่สุด ตั้งแต่ระบบเทคโนโลยีขั้นพื้นฐานไปยังระบบโลกของ Cloud & IoT ล่าสุดจัดงานแสดงนวัตกรรมด้านไอทีซึ่งรวบรวมเอาเทคโนโลยีทั้งหมดของหัวเว่ยมาแสดง ที่สามฮอลล์ยักษ์ ณ เซียงไฮ้ ประเทศจีน กับงานที่ชื่อว่า Huawei Connect 2016 : Shape the Cloud
สำหรับโซนการจัดงานแบ่งออกเป็น 3 ฮอลล์ อันได้แก่ Mercedes-Benz Arena ซึ่งฮอลล์นี้จะเป็นการนำเสนอข้อมูลการบรรยายจาก Keynote Speaker ต่างๆ ที่มาจากทั้ง Huawei, SAP, Intel, HSBC, China Telecom, GE, Infosys, The Linux Foundation, T-Systems เป็นต้น โดยมีผู้มาเข้าร่วมฟังที่ฮอลล์ดังกล่าวนี้กว่า 20,000 คนกว่า 120 ประเทศทั่วโลก !
โดยคุณ Ken Hu ซึ่งเป็น Deputy Chairman of the Board และ Rotating CEO ของ Huawei ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีเกี่ยวกับการไปสู่ยุทธศาสตร์ใหม่ว่า Huawei นั้น มีเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้ขับเคลื่อนและผลักดันโลกอัจฉริยะ โดยให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีที และให้บริการเทคโนโลยีระบบคลาวด์ที่คิดค้นใหม่ โดยมีความตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงโลกอุตสาหกรรมต่างๆ ไปสู่โลกดิจิตอลอย่างจริงจัง
เขายังเสริมต่อไปอีกด้วยว่า ว่าองค์กรต่างๆ ถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในยุคแห่งระบบคลาวด์ เนื่องจากนวัตกรรมด้านโซลูชั่นจะปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการใช้งานที่จำเพาะขององค์กร ซึ่งทำให้ Huawei มองตรงจุดนี้และพัฒนาโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการการใช้งานของคลาวด์ด้วย
เมื่อพิจารณาในแง่นี้ หัวเว่ยจึงมุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ โดยทำความเข้าใจถึงความต้องของลูกค้าอย่างเจาะลึก เพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีทีผสานนวัตกรรมได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า หัวเว่ยให้บริการโซลูชั่นรระบบคลาวด์แบบผสมผสานที่สามารถส่งมอบและใช้งานได้ง่ายตามหลักสถาปัตยกรรมแบบเปิดที่รวมเป็นระบบเดียว
ด้านนาย Eric Xu ซึ่งเป็น Deputy Chairman of the Board และ Rotating CEO (ท่านที่สอง) ของ Huawei ก็ได้มานำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านของคลาวด์ไปสู่องค์กรที่เป็นแบบ Digital Enterprise โดย Eric Xu ได้นำเสนอประเด็นที่เหล่า CIO ในระดับองค์กรต่างๆ จะต้องก้าวไปนั่นก็คือการกลายเป็น CI3O โดยจะต้องมีองค์ประกอบในการดำเนินงานที่สำคัญทั้ง Information (I ตัวที่ 1) คือจะต้องเป็นผู้นำด้านข้อมูลเกี่ยวกับระบบนิเวศคลาวด์สำหรับสถาปัตยกรรมด้านไอที ถัดมาต้องมี Innovation (I ตัวที่ 2) คือสามารถที่จะขับเคลื่อนได้ทั้งนวัตกรรม, การปฏิบัติการ และวางโมเดลธุรกิจได้อย่างล้ำสมัย และสาม Interconnect (I ตัวที่ 3) การเป็นผู้ที่จะต้องเชื่อมได้ในทุกโหมดไม่ว่าจะเป็นโหมดที่ต้องเป็นผู้นำในองค์กร, และเป็นคนที่ดูแลลูกค้า, ผสานงานกับพาร์ทเนอร์และ สามารถสื่อสารกับพนักงานได้อย่างไม่เคอะเขิน เป็นต้น
นอกจากประโยชน์ของคลาวด์ที่มีมากมายมหาศาลแล้ว Eric Xu ยังได้ชี้ประเด็นเกี่ยวกับความปลอดภัยที่อาจจะเกิดขึ้นหากเราต้องก้าวเข้าสู่โลกของคลาวด์ ที่จำเป็นต้องระมัดระวังกันไว้ ซึ่งมีภัยคุกคามที่อาจจะเป็นอันตรายได้ถึง 12 ประการ อาทิ ข้อมูลรั่วไหล, ระบบข้อมูลและพาสส์เวิร์ดตลอดจนรายละเอียดส่วนบุคคลอาจจะเกิดช่องโหว่, ตัวอินเทอร์เฟสและ APIs อาจจะโดนแฮ็ก, ช่องโหว่ระบบอาจจะโดนเอาไปใช้ในทางที่ผิด, มีสิ่งแปลกปลอมที่เกิดภายใน, ข้อมูลหายอย่างต่อเนื่อง, การโจมตีแบบ DoS เป็นต้น
สำหรับ Cloud ของ Huawei นั้น Eric Xu บอกว่า พวกเขาวางตัวเองไว้เป็น “ผู้ที่เปิดโลกทัศน์และขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะ” โดยยึดหลักความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer-centric) และจะมุ่งเน้นไปที่ในส่วนของที่เป็นโครงสร้างด้านไอซีทีบนคลาวด์ ทั้งในแง่ของ Infrastructure-as-a-Service (IaaS) และ Platform-as-a-Service (PaaS) นอกจากนั้นแล้วพวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะส่งเสริมความสำเร็จต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบนิเวศน์คลาวด์, การโปรโมทในส่วนของระบบเปิด, การผสานการทำาน และความสำเร็จที่มาจากการแบ่งปันกัน
และผู้บริหารจาก Huawei อีกท่านที่มากล่าวในวันที่ 3 ของงานก็คือ คุณ Guo Ping ตำแหน่ง Deputy Chairman of the Board และ Rotating CEO (ท่านที่สาม) ซึ่งมาพร้อมกับแนวคิดการก้าวสู่ระบบ Open Cloud Ecosystem ที่นำเอาคลาวด์มาใช้ในการสร้างสรรค์มากกว่าแต่ก่อน โดยยกประเด็นเรื่อง Rainforest และมีการเชิญคุณ Li Minguo ผู้ก่อตั้งโครงการ TianZi Biodiversity & Development Centre มาเล่าเรื่องระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ ปูพื้นสู่การพัฒนาไอทีที่ต่อไปจะนำเอามาใช้ในการดำเนินงานอีกด้วย
ซึ่งนอกจากผู้บริหารระดับสูงทั้ง 3 คนขอทาง Huawei มากล่าวเปิดงานและบรรยายแล้วยังมี Key note สำคัญๆ ในวงการโลกไอทีที่คุ้นเคยกันเช่น คุณ Thomas Saueressig , CIO จาก SAP กับหัวข้อ The Future of Cloud Migration, คุณ Brian Krzanich, CEO จาก Intel กับเรื่อง Inventing the Future through Collaboration และคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
สำหรับในฮอลล์ถัดมาชื่อว่า Shanghai Expo Center เป็นสถานที่จัดแสดงนวัตกรรมด้านไอซีทีในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่ง Huawei และพาร์ทเนอร์ได้มีการร่วมกันในการสร้างโซลูชันที่ออกแบบสำหรับอุตสาหกรรมนั้นๆ (Collaborations) ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพลังงาน, กลุ่มอุตสาหกรรม, ธุรกิจด้านการเงิน, เทคโนโลยีสำหรับสายการบิน, เทคโนโลยีในธุรกิจบรอดคลาสติ้ง, เทคโนโลยีเกี่ยวกับ Smart City and Safe City, เทคโนโลยี Smart Manufacturing, ธุรกิจการขนส่ง, วิทยาศาสตร์และการศึกษา เป็นต้น โดยมีพันธมิตรของ Hauwei มากมายมาร่วมออกบูธไม่ว่าจะเป็น F5 Networks, Netscout, SAP, Intel, Brocade, IBM, WD, IDC, Redhat, Neusoft, Huagai, Veritas, Toshiba, Suse, Commvault, Watchdata และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าครบเครื่องมากที่สุดงานหนึ่งเลยทีเดียว
และสำหรับฮอลล์สุดท้าย Shanghai World Expo Exhibition & Convention Center จะเป็นการนำเสนอการบรรยายสำหรับกลุ่ม Developer และผู้ร่วมแสดงสินค้าต่าง โดยมีการบรรยายและเทรนนิ่งเกี่ยวกับเทคนิคและโปรแกรมเมอร์ ต่างๆ มากกว่า 60 เซสชั่น ตัวอย่างเช่น IoT Drives Verticals to Digitization, FusionStage : Huawei Paas Coud Solution, Cloud Enterprise Communication, CloudOpera IES Innovaton, ONOS Mini-Summit, Embracing Open Source Technology ฯลฯ โดยมีการบรรยายจากทั้ง Huawei และ พันธมิตร
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน HUAWEI CONNECT 2016 สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.huawei.com/minisite/huaweiconnect2016