หัวเว่ย บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีน ได้ทยอยยุบทีมประชาสัมพันธ์และรัฐบาลสัมพันธ์ในสหรัฐฯ และแคนาดา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าบริษัทได้เลิกพยายามโน้มน้าวรัฐบาลวอชิงตันให้ผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ
พวกเขาต้องแบกรับภาระจากการถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรเป็นเวลานาน 5 ปี ตั้งแต่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตผู้นำสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำบริษัทในปี 2019 โดยกล่าวหาว่าอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคมและไอทีของบริษัทเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ
ในช่วงแรก หัวเว่ยตอบโต้ด้วยการเสริมสร้างความพยายามด้านประชาสัมพันธ์และรัฐบาลสัมพันธ์ในสหรัฐฯ เพื่อลดกระแสเสียงด้านลบจากบรรดานักการเมืองในกรุงวอชิงตัน แต่อย่างไรก็ตาม รายงานจาก Nikkei Asia ระบุว่า หัวเว่ยได้ยุบทีมประชาสัมพันธ์และรัฐบาลสัมพันธ์ในอเมริกาเหนืออย่างต่อเนื่อง อ้างอิงจากแหล่งข่าววงใน พวกเขาอ้างว่า พนักงานจำนวนมากถูกเลิกจ้างไปเมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงบางคนที่ทำงานกับบริษัทมานาน 10 ปีก็โดนไปด้วย
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า ความหวังของหัวเว่ยที่จะพลิกสถานการณ์นั้นเลือนลางลง บริษัทจึงหันไปมุ่งเน้นที่ตลาดอื่นๆ แทน โดยเฉพาะในจีนซึ่งบริษัทยังคงเป็นผู้เล่นหลัก
หัวเว่ยเคยว่าจ้าง Tony Podesta ซึ่งเป็นนักล็อบบี้ยิสต์ที่มีประสบการณ์สูง และรวมไปถึงทั้งบริษัทล็อบบี้ยีสต์อีกสามแห่ง ในปี 2021 เพื่อช่วยรับมือกับการคว่ำบาตรด้านการค้าและเศรษฐกิจที่วอชิงตันกำหนด ซึ่งทีมงานดังกล่าว ยังทำงานเพื่อให้ปล่อยตัว Meng Wanzhou ผู้บริหารระดับสูงด้านการเงินของหัวเว่ย ซึ่งถูกจับกุมในแคนาดา ตามคำขอให้ส่งตัวข้ามแดนจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มาแล้วด้วย
อ่่านเพิ่มเติมที่นี่ – Theregister , NKA