ปัจจุบันนี้องค์กรธุรกิจต่างๆ เริ่มที่จะกลับสู่การดำเนินงานได้ตามปกติมากขึ้น หลังจากการต้องปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งในปี 2023 ที่กำลังดำเนินอยู่นี้ นับเป็นปีที่ภาคธุรกิจกำลังมองหาเครื่องมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ (Digital Modernization) มาเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองเพื่อสร้างการเติบโตและพร้อมรับมือกับการแข่งขันทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
HPE Aruba Networking ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีเครือข่ายระดับโลก เข้าใจถึงความต้องการขององค์กรธุรกิจในแง่มุมของเทคโนโลยีดิจิทัล จึงได้มีการอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะนำเสนอเทคโนโลยีให้กับองค์กรธุรกิจผ่านทางช่องทางคู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายของตน จึงได้จัดงานสัมมนาให้กับคู่ค้าภายใต้ชื่องานว่า HPE Aruba Networking Partner Day’23 – Network Modernization โดยเป็นการต่อยอดในแนวคิดของเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Aruba ESP (Edge Services Platform) เป็นธงหลักมาโดยตลอด
Enterprise ITPro ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานดังกล่าว และได้เก็บภาพบรรยากาศรวมถึงมีโอกาสพูดคุยกับ คุณประคุณ เลาหกิตติกุล ผู้จัดการอรูบ้าประจำประเทศไทย (Aruba a Hewlett Packard Enterprise Company) เกี่ยวกับงานที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งอธิบายถึงโซลูชั่นของ HPE Aruba Networking รุ่นใหม่ ซึ่งเราจะนำเสนอให้ทราบภายในบทความครั้งนี้
สำหรับการจัดงานสำหรับคู่ค้าในครั้งนี้ คุณประคุณ บอกว่าเพื่อที่จะอัปเดตข้อมูลและเทคโนโลยีใหม่ โดยแบ่งออกเป็นเทคโนโลยีและโซลูชั่นใน 3 ประเด็นๆ หลักดังนี้
เทคโนโลยีแรก “Cloud Management”
เขาชี้ให้เห็นว่าโลกในปัจจุบันกำลังเคลื่อนที่เข้าสู่การดำเนินงานแบบไฮบริด องค์กรเป็นจำนวนมากมีการใช้งานอยู่บนคลาวด์มากขึ้นกว่าเดิม ก่อให้เกิดความจำเป็นในการที่ต้องมีแนวทางในการบริหารจัดการเทคโนโลยีผ่านทางคลาวด์ โดย HPE Aruba Networking มีโซลูชั่นที่ชื่อว่า Aruba Central เป็นตัวกลางในการบริหารจัดการในลักษณะแบบจุดศูนย์กลางเพียงแห่งเดียว โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพให้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัยที่ดีขึ้น หรือการจัดการเส้นทางต่างๆ ได้ดีขึ้น เป็นต้น
โดยตัว Aruba Central ที่ได้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพมากขึ้นนั้น สามารถสร้างประโยชน์มากมาย ตัวอย่างเช่น
– Cloud Authentication ที่สามารถทำได้บนคลาวด์ทันที เป็นการตอบโจทย์การทำงานได้อย่างแท้จริง, ผสาน- การทำงานร่วมกับคลาวด์อื่นๆ ทั่วไปเช่น Google Workspace และ Azure Active Directory
– เพิ่มความสามารถด้านความปลอดภัยด้วย AI-based client insights
– ผู้ใช้สามารถ Onborad โดยอัตโนมัติด้วยโซลูชั่นผ่าน Aruba Air Pass ผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้
เขากล่าวต่อไปเครือข่ายในปัจจุบันจะเริ่มเห็นคนหันมาใช้งาน Wi-Fi 6E กันมากขึ้น สืบเนื่องจากปัจจุบันทางหน่วยงานที่ดูแลกำกับจะทำการอนุญาตคลื่นความถี่ที่เกี่ยวข้องได้ในเร็วๆ นี้ ทำให้การใช้งานเครือข่ายแบบไร้สายขององค์กรจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางดีมากขึ้น ลูกค้าจะได้ประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ และทาง HPE Aruba เองก็มีผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นสำหรับรองรับการใช้งาน Wi-Fi 6E มากขึ้นเช่นกัน
เทคโนโลยีที่สอง “Data Center Networking”
ในปัจจุบันดาต้าเซ็นเตอร์ ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย พร้อมกับเพิ่มความสลับซับซ้อนให้แก่เหล่าผู้ดูแลระบบไอทีมากขึ้นไปด้วย แน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมาด้วยก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความปลอดภัย ที่องค์กรต้องใส่ใจมากเป็นพิเศษ ในประเด็นนี้เป็นการสอดคล้องกับเทคโนโลยีที่ทาง HPE Aruba Networking พัฒนามาเพื่อให้สามารถเข้าไปป้องกันและสร้างความปลอดภัยได้ในระดับไมโครเซกเมนต์ ภายใต้ชื่อเทคโนโลยีว่า Digital Processing Unit หรือ DPU
Digital Processing Unit คืออะไร?
Data Processting Unit (DPU) ที่สามารถประมวลผลทราฟฟิกได้ด้วยความเร็วในระดับ 800G เป็นชิปเซ็ตพิเศษ ที่สามารถกำหนดเซอร์วิสที่เกี่ยวข้องกับการจัดการด้านความปลอดภัย อาทิ Security Firewall, Load balance, IPSec, Telemetry ผ่านลงไปที่ชิป DPU นี้ และสามารถกระจายเซอร์วิสเหล่านี้ไปลงในเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นเวอร์ชวลแมชชีนได้เลย ซึ่ง HPE Aruba Networking ได้มีการเข้าไปลงทุนในบริษัทที่ทำโซลูชั่นดังกล่าวที่ชื่อว่า Pensando และสามารถที่จะนำเอาตัว DPU ของ Pensando มาผนวกเข้ากับผลิตภัณฑ์สวิตช์ของ HPE Aruba Networking เป็นรุ่นที่ชื่อว่า Aruba CX 10000 Series
ความเหนือชั้นของอุปกรณ์ Aruba CX 10000 Series
Aruba CX 10000 Series เป็นสวิตช์ในแบบที่เรียกว่า Distribute Service Switch ที่เป็นนวัตกรรมสำคัญในโลกของการทำงานยุคใหม่ สามารถช่วยให้องค์กรดำเนินงานได้อย่างเต็มขั้น โดยเพียบพร้อมไปด้วยฟังก์ชันต่างๆ อาทิ การมีระบบความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม, มีความคล่องตัวในการดำเนินการ, แม้กระทั้งสามารถขยายขีดความสามารถ ตามการเติบโตขององค์กรได้อย่างดีเยี่ยม เป็นต้น
ตัว Aruba CX 10000 Series รวมเอาความสามารถที่เป็นที่สุดในฝั่งของระบบการจัดการด้านเครือข่ายมาไว้ด้วยกัน, มาพร้อมกับตัว Aruba AOS-CX ออกแบบเพื่อใช้ได้ทั้งในดาต้าเซ็นเตอร์ แคมปัส และการประมวลผลเอ็ดจ์ นอกจากนั้นแล้ว ด้วยความสามารถของซอฟต์แวร์อย่าง AMD Pensando ทำให้ Aruba CX 10000 Series เพิ่มประสิทธิภาพให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ด้วยเซอร์วิสอย่างเช่น East-west Firewalling, NAT, Encryption และ Telemetry เป็นต้น ลงในสวิตช์เพียงตัวเดียว!
เทคโนโลยีที่สาม “SD-WAN”
คุณประคุณอธิบายว่า ต่อจากนี้ไป ข้อมูลและการดำเนินธุรกิจต้องมีความรวดเร็วมากขึ้น ข้อมูลที่เคยวิ่งอยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์ก็มีการเปลี่ยนแปลงไป ไปอยู่บนคลาวด์มากขึ้น ทำให้เทคโนโลยีอย่าง SD-WAN เข้ามาช่วยตอบโจทย์ขององค์กรที่เปลี่ยนไป เช่น การสร้างความยืดหยุ่นในการขนส่งทราฟฟิกได้หลากหลายรูปแบบ การรับส่งข้อมูล ไม่อิงกับการรับส่งตามเส้นทางเดียวอีกต่อไป อีกทั้งยังเพิ่มในเรื่องของความปลอดภัยเข้าไป พร้อมๆ กับเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว HPE Aruba Networking ได้พัฒนาโซลูชั่นที่เพิ่มประสิทธิภาพด้าน SD-WAN ภายใต้ชื่อว่า “Aruba EdgeConnect”
ทำไมต้อง Aruba EdgeConnect SD-WAN
Aruba EdgeConnect คือแพลตฟอร์ม SD-WAN แบบครบวงจรที่ขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปอย่างล้ำสมัย โดยสามารถแบ่งเป็นคุณประโยชน์ที่น่าสนใจให้เห็นเป็นสี่ประการ อันประกอบด้วย
1. ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ : ประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน ความปลอดภัย และการกำหนดเส้นทาง จะถูกกำหนดได้ตามนโยบายที่สอดคล้องกับธุรกิจ
2. สร้างประประสบการณ์แห่งคุณภาพสูงสุด : Aruba EdgeConnect ช่วยให้ผู้ใช้งานและฝ่ายไอทีสามารถเข้าถึงประสิทธิภาพที่มีความสม่ำเสมอ และต่อเนื่องที่พร้อมใช้งานตลอดเวลา ก่อให้เกิดประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม
3. การปรับตัวอย่างต่อเนื่อง : เทคโนโลยีของ Aruba EdgeConnect สามารถตอบสนองเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างเรียลไทม์ หากมีความผิดปกติที่เกิดขึ้นในเครือข่ายก็สามารถปรับตัวและตอบสนองได้ทันที
4. รวมเป็นแพลตฟอร์มเดียว : เทคโนโลยีนี้ได้รับการออกแบบมาจากการที่มีความเป็นหนึ่งเดียว โดยรวมเอาทั้ง SD-WAN, Firewall, การจัด Segmentation, การกำหนดเส้นทาง, การเพิ่มประสิทธิภาพ WAN หรือการควรบคุมแอปพลิเคชันลงบนแพลตฟอร์มเดียว
รูปแบบการใช้งานยูสเซอร์ที่เปลี่ยนไป
ในยุคอดีตนั้นการใช้เทคโนโลยีขององค์กรยังยึดติดกับรูปแบบเดิมอยู่ กล่าวคือองค์กรนั้นๆ มักจะซื้อโซลูชันด้านไอทีทั้งหลายมาและทำการบริหารจัดการด้วยตัวเอง ทำการเซตระบบหรือ configuration ด้วยตัวเอง แต่เมื่อมาในยุคปัจจุบัน แนวคิดการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital Transformation) เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้เกิดมุมมองเปลี่ยนใหม่ โดยองค์กรในยุคใหม่ต่างหันเข้าสู่บริการคลาวด์มากขึ้น เข้าสู่รูปแบบการบริการที่เป็นแบบ as-a-Service มากขึ้น
ทาง HPE Aruba Networking ก็ได้ตระหนักถึงแนวคิดดังกล่าว พร้อมกับทางบริษัทแม่อย่าง HPE ก็มีบริการแบบที่เรียกว่า GreenLake เป็นการให้บริการทั้งเซิร์ฟเวอร์และสตอเรจในแบบ On-premise แต่จ่ายเป็นรายปี คือใช้ปริมาณเท่าไหร่ก็จ่ายตามการใช้งานจริง
ซึ่ง HPE Aruba ก็มีการให้บริการลักษณะที่เป็น as-a-Service ที่มีความคล้ายกับบริษัทแม่คือ “HPE Aruba GreenLake Network-as-a-Service” โดยจะนำเสนอโซลูชั่นในลักษณะที่ให้ลูกค้ามองเป็นเซอร์วิสที่สามารถเข้ามาทำงานร่วมกันได้ โดย HPE Aruba Networking มีเครื่องมือที่จะคอยมอนิเตอร์ระบบของลูกค้า ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่าระบบของลูกค้านั้นยังมีสุขภาพดีอยู่หรือไม่?, มีการอัปเดตระบบที่ครบถ้วนหรือไม่? เป็นต้น
HPE Aruba Networking จะจัดทีมงานภายใต้ชื่อว่า Customer Experience Manager (CEM) พวกเขาจะเข้ามาทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้แก่ลูกค้า ทีมงาน CEM นี้จะช่วยจัดการเรื่องราวของเครือข่ายของลูกค้า เข้ามาร่วมประชุม แลกเปลี่ยนข้อมูล รวมถึงช่วยแก้ปัญหา ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ประโยชน์ที่เกิดขึ้นก็คือ ลูกค้าสามารถที่จะลดต้นทุนที่เป็นแบบ Capex (Capital Expenditures) ที่ต้องเอางบประมาณไปลงทุนกับระบบต่างๆ ให้กลายไปเป็น Opex (Operational Expenditures) โดยใช้งบประมาณเป็นลักษณะจ่ายเป็นค่าการดำเนินการ ไม่จำเป็นต้องใช้เงินสูงมากมายในการซื้อระบบใหม่ แต่จ่ายเป็นรายเดือนหรือรายปีแทน
กล่าวโดยสรุปก็คือ ลูกค้าหรือองค์กรจะมีระบบเครือข่ายไอทีที่ทันสมัย โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนเงินสูงเพื่อให้ได้มาซึ่งระบบดังกล่าวอีกต่อไป เพียงแต่ให้ HPE Aruba Networking เข้ามาช่วยในการดูแลและจัดการระบบเครือข่ายของคุณ รวมถึงทีมงาน CEM ที่มาช่วยดูแลแทนคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
บทสรุป
ในงาน HPE Aruba Networking Partner Day’23 – Network Modernization นับเป็นการต่อยอดจากแนวคิด Aruba ESP (Edge Services Platform) รวมถึงการอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ HPE Aruba ให้กับตัวแทนของพวกเขา เพื่อส่งผ่านเรื่องราวข้อมูลดีๆ เหล่านี้ไปยังลูกค้าและองค์กรต่างๆ ของพวกเขาได้ดีมากขึ้น
สำหรับผู้ทีสนใจและอยากจะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตาม HPE Aruba Networking ได้ที่ ทีมงาน SiS ได้ทันทีที่ อีเมล : HPEAruba@sisthai.com หรือ LineID : @sisaruba