ที่งาน Fujitsu ActivateNow 2021 นอกเหนือจากการนำเสนอโซลูชันที่ช่วยสริมประสิทธิภาพให้ธุรกิจยุคใหม่แล้ว อีกหนึ่งหัวข้อที่น่าสนใจคือการนำเสนอวิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนจากคุณ Vivek Mahajan, CTO ของฟูจิตสึ
แม้จะเป็นผู้บริหารหน้าใหม่ที่เพิ่งร่วมงานกับฟูจิตสึ แต่ Vivek ก็มีประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีและการเงิน โดยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทด้านเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย หนึ่งสิ่งที่ทำให้คุณ Vivek ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับฟูจิตสึคือ วิสัยทัศน์ด้านการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างความยั่งยืนชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน รวมถึงการมุ่งนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปสู่อนาคตของฟูจิตสึเอง ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างมาก
ตลอดการบรรยาย ในบทบาทของ CTO คุณ Vivek ให้ข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งเราของสรุปเป็นประเด็นสำคัญดังนี้
5 เทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อธุรกิจในอนาคต
หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า ฟูจิตสึวางยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี 7 ด้านคือ การผลิตที่ยั่งยืน ประสบการณ์ผู้บริโภค ชีวิตที่มีสุขภาพดี สังคมที่ไว้วางใจได้ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล แอปพลิเคชันทางธุรกิจ และไฮบริดไอที รวมถึงมีการเปิดตัวแบรนด์ธุรกิจใหม่อย่าง Fujitsu Uvance ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านเทคโนโลยีทั้ง 7 ด้านดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีทั้ง 7 ด้านนั้น ก็มีพื้นฐานที่สำคัญเดียวกันนั่นคือ การใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมหาศาล ซึ่งระบบที่จำสามารถประมวลผลได้นั้น ต้องมีความเร็วและประสิทธิภาพสูงมาก ซึ่งเทคโนโลยีการประมวลผลขั้นสูงโดยใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ รวมถึงการประมวลผลที่ได้แรงบันดาลใจมาจากควอนตัมคอมพิวติ้ง ก็เป็นสิ่งที่ฟูจิตสึให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ต้องให้ความสำคัญคือการรับส่งข้อมูลความเร็วสูง ขณะที่เทคโนโลยีการวิเคราะห์และนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั้น ที่ขาดไม่ได้คือ การรักษาความปลอดภัยข้อมูล ท้ายสุดคือ การเชื่อมต่อเทคโนโลยีต่างๆ เข้ากับผู้คน ก็ถือเป็น 5 เทคโนโลยีที่รากฐานสำคัญสำหรับยุทธศาสตร์ของฟูจิตสึ
เทคโนโลยีจะขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้นได้อย่างไร
ในฐานะองค์กรด้านเทคโนโลยีที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ฟูจิตสึได้มีส่วนร่วมในการนำผลงานของบริษัทไปช่วยพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน ตัวอย่างเช่น
การนำซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Fugaku ไปช่วยประมวลผลให้แก่สถาบันวิจัยชั้นนำทั้งในญี่ปุ่น และในประเทศต่างๆ โดยใช้การประมวลผลบนระบบคลาวด์ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในงานวิจัยลดลงอย่างมาก และทำให้ศักยภาพของซูเปอร์คอมพิวเตอร์อยู่ในระดับที่คนทั่วไปสามารถสัมผัสได้
หนึ่งในงานวิจัยที่สำคัญคือ การช่วยวิจัยคิดค้นยารักษาโควิด-19 ของศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีชั้นสูง แห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว หรือการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ ฟูจิตสึได้นำซูเปอร์คอมพิวเตอร์ไปใช้เพื่อจำลองการชน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในรถยนต์หรือเครื่องบินในอนาคต ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ นอกจากผู้ประกอบการจะประหยัดต้นทุนการออกแบบ อันส่งผลให้ต้นทุนสินค้าถูกลงแล้ว ผู้บริโภคก็จะได้รับสินค้าที่ดีขึ้นด้วย
นอกเหนือจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Fugaku ฟูจิตสึยังมีการพัฒนา Fujitsu Digital Annealer ระบบประมวลผลขั้นสูงที่ใช้แนวคิดของควอนตัมเข้ามาช่วยตอบโจทย์ธุรกิจด้านต่างๆ ทั้ง การบริหารจัดการระบบคลังสินค้าและโลจิสติกส์ การพัฒนายารักษาโรค การสร้างและบริหารพอร์ตลงทุน การบริหารจัดการการผลิต การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน และการบริหารจัดการระบบพลังงาน
บทบาทของฟูจิตสึในสนามเทคโนโลยี 5G
ฟูจิตสึเป็นบริษัทที่พัฒนามาจากการให้บริการเครือข่ายและการสื่อสาร ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาฟูจิตสึทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ให้บริการสื่อสารในประเทศต่างๆ เพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการให้บริการ 5G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
AI กับการสร้างสังคมที่ดีขึ้น
แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มากมาย แต่ที่ผ่านมามีการถกเถียงมากมายเกี่ยวกับด้านมืดของ AI หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ในมุมของฟูจิตสึเอง AI ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในหลายบริการ และฟูจิตสึก็ยังคงมุ่งมั่นในการนำ AI มาช่วยสร้างสรรค์บริการที่ดีขึ้น แต่ประเด็นคือการนำไปใช้จะต้องสร้างประโยชน์ต่อทั้งธุรกิจและผู้คน ซึ่งที่ผ่านมา ฟูจิตสึก็ทำได้ดีกับการนำ AI มาช่วยในการเสริมศักยภาพการทำธุรกิจ สร้างบริการใหม่ๆ และสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า
บล็อกเชนกับการรักษาความปลอดภัยข้อมูล
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่เป็นรากฐานสำคัญของธุรกิจยุคดิจิทัล นอกเหนือจากโซลูชันรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่หลายองค์กรต้องมีติดตั้งและใช้งานอยู่แล้ว บล็อกเชนก็เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญ ที่หลายองค์กรให้ความสนใจ บล็อกเชนในมุมของฟูจิตสึ ไม่ใช่แค่เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัลหรือ Crypto Currency เพียงอย่างเดียว
ที่ผ่านมาฟูจิตสึมีการนำบล็อกเชนไปประยุกต์ใช้งานในธุรกิจต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อติดตามต้นกำเนิดในธุรกิจอาหาร ธุรกิจขนส่งสินค้า การชำระเงิน รวมถึงนำมาใช้ในการซื้อขายผลิตผลทางการเกษตรอย่างเช่น ข้าว เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงบางส่วนของความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีมาช่วยสร้างสังคมที่ยั่งยืนของฟูจิตสึ แน่นอนว่า ActivateNow 2021 คงไม่ใช่บทสรุปของเทคโนโลยีที่ฟูจิตสึให้ความสำคัญ แต่เป็นจุดเริ่มของการเป็นองค์กรยุคดิจิทัลที่มุ่งนำเทคโนโลยีมาสร้างชีวิตที่มีความสุขมากขึ้นต่างหาก