หน้าแรก Home feature ขับเคลื่อนธุรกิจและเติมพลังให้ผู้คน เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ที่งาน Fujitsu ActivateNow 2021

ขับเคลื่อนธุรกิจและเติมพลังให้ผู้คน เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ที่งาน Fujitsu ActivateNow 2021

แบ่งปัน

ผ่านไปแล้วกับ Fujitsu ActivateNow 2021 งานแสดงวิสัยทัศน์และโซลูชันเทคโนโลยีครั้งสำคัญของยักษ์ใหญ่ด้านโซลูชันดิจิทัลอย่าง “ฟูจิตสึ” แม้จะอยู่ในภาวะที่ไม่แน่นอนจากการระบาดของโควิด-19 แต่ฟูจิตสึเองก็ยังมุ่งมั่นนำวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ด้านเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์สังคม การดำเนินธุรกิจและชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น ผ่านงานแสดงโซลูชันแบบเวอร์ชวลในครั้งนี้

หนึ่งในแนวคิดสำคัญที่ฟูจิตสึมุ่งนำเสนอในงานนี้ก็คือ การสร้างสังคมที่ยั่งยืนมากขึ้นได้อย่างไรโดยไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของผู้คนในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยจัดการกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่เรากำลังเผชิญอยู่

ผ่านคอนเทนต์ที่ครอบคลุม 7 ประเด็นที่ฟูจิตสึให้ความสำคัญได้แก่
(1) การผลิตที่ยั่งยืน (Sustainable Manufacturing)
(2) ประสบการณ์ผู้บริโภค (Consumer Experience)
(3) ชีวิตที่มีสุขภาพดี (Healthy Living)
(4) สังคมที่ไว้วางใจได้ (Trusted Society)
(5) การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Shifts)
(6) แอปพลิเคชันทางธุรกิจ (Business Applications)
(7) ไฮบริดไอที (Hybrid IT)

การเปิดตัว Fujitsu Uvance
นอกเหนือจากโซลูชันสำคัญทั้ง 7 ด้าน ฟูจิตสึได้เปิดตัว Fujitsu Uvance แบรนด์ธุรกิจใหม่ ที่ใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญด้านการแก้ไขปัญหาของฟูจิตสึใน 7 ด้านที่สำคัญข้างต้น เพื่อมอบคุณประโยชน์ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า ควบคู่ไปกับการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุด นั่นคือ “การทำให้โลกมีความยั่งยืนมากขึ้นด้วยการสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคมโดยอาศัยนวัตกรรม” ที่มุ่งแก้ปัญหาสังคมด้วยนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืน

การนำนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืน
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของงานนี้คือ การกล่าวเปิดงานและนำเสนอแนวคิด “การสร้างพลังให้ผู้คนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” หรือ “”Empowering People for a Sustainable Future”” ในช่วง Keynote Session โดย ทาคาฮิโตะ โตคิตะ CEO และ Chief Digital Transformation, Fujitsu Japan พร้อมวิทยากรรับเชิญ 3 ท่าน ได้แก่

แคที มัทซุย อดีตรองประธานโกลด์แมน แซคส์ ธนาคารเพื่อการลงทุนระดับโลก และเป็นหัวหน้านักยุทธศาสตร์หุ้นญี่ปุ่น ที่ได้รับการยกย่องจาก ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ให้เป็น “สตรีผู้ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจ”

โทมัส อิลเวส อดีตประธานาธิบดีประเทศเอสโตเนีย พ.ศ. 2549-2559 หนึ่งในผู้ขับเคลื่อนให้ประเทศเล็กๆ ในทวีปยุโรป กลายเป็นประเทศที่มีการพัฒนาด้านรัฐบาลดิจิทัลมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก

ซึ่งทุกคนต่างนำตัวอย่างและประสบการณ์ของตนเอง เพื่อแสดงให้เห็นว่า ขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายขนาดใหญ่และซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ การสร้างอนาคตที่ยั่งยืน โดยไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง จึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย นั่นทำให้ประเด็นเกี่ยวกับ ESG (สิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล) จึงเป็นอีกสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ

ทาคาฮิโตะ โตคิตะ ระบุว่า ด้วยความเชื่อที่ว่า “เทคโนโลยีสร้างชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น” ฟูจิตสึจึงมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของสังคมและลูกค้าของเรามาอย่างยาวนาน โดยเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากมาย เราได้พิจารณาอีกครั้งว่าฟูจิตสึควรมีบทบาทอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ ปีที่แล้ว เราได้ประกาศหนึ่งในวิสัยทัศน์สำคัญคือ “การสร้างโลกที่มีความยั่งยืนมากขึ้นโดยการสร้างความไว้วางใจในสังคมผ่านนวัตกรรม” ซึ่งฟูจิตสึกำลังพยายามทุกวิถีทางในกิจกรรมทั้งหมด เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์นี้

ทาคาฮิโตะ โตคิตะ CEO และ Chief Digital Transformation, Fujitsu Japan

ระหว่างการสทนากับคุณทาคาฮิโตะ โตคิตะ แคที มัทซุย กล่าวว่า “เทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญสู่สังคมที่ดี สร้างความรับผิดชอบมากขึ้น และทำให้โลกมีความคาดหวังสูงสำหรับผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่างฟูจิตสึ ว่าจะเน้น ESG เป็นกลยุทธ์พื้นฐานในการเป็นบริษัทที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาแบบองค์รวมและไม่ใช่แค่แสวงหาผลกำไร”

การสนทนาระหว่าง แคที มัทซุย และทาคาฮิโตะ โตคิตะ

ขณะระหว่างการพูดคุยจากสตูดิโอในประเทศเอสโตเนียกับอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาเทคโนโลยีของโลกอย่าง โทมัส อิลเวส ผู้นำพาประเทศเอสโตเนียให้ก้าวไปบนเส้นทางมุ่งหน้าสู่สังคมดิจิทัล กล่าวว่า “ความสามารถในการทำทุกอย่างแบบดิจิทัลช่วยให้เอสโตเนียสามารถประหยัดงบประมาณของประเทศได้ประมาณ 2% ของ GDP รวมทั้งทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายหลักของการสร้างสังคมดิจิทัลของเราคือ ความต้องการให้ประชาชนมีความสุข สะดวกสบาย และรู้สึกปลอดภัย”

โทมัส อิลเวส อดีตประธานาธิบดีประเทศเอสโตเนีย

ท้ายสุด เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน ผู้ก่อตั้ง Virgin Group และเป็นบุคคลที่มุ่งสร้างความท้าทายใหม่ ๆ ให้กับตนเองอยู่เสมอ ให้ข้อคิดว่า หนึ่งในปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังสีสันในโลกธุรกิจของเขาคือ เขามักผลักดันให้คนที่อยู่รอบข้างกล้าคิดและกล้าสร้างอะไรใหม่ ๆ อยู่เสนอ นั่นทำให้เขามีทีมงานที่มีศักยภาพนำไอเดียบรรเจิดต่าง ๆ ไปสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นจริงได้

เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน ผู้ก่อตั้ง Virgin Group

ท้าสุด ทาคาฮิโตะ โตคิตะ กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่ใช้แนวทางเหล่านี้ในการพัฒนาสำหรับธุรกิจของเรา นั่นหมายความว่าเราจะเดินหน้าไล่ตามความก้าวหน้าในเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น AI, 5G และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีจะสร้างคุณค่าได้ก็ต่อเมื่อนำไปใช้ได้จริงเท่านั้น และเชื่อว่า “เทคโนโลยีสร้างชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น”