เอปสัน ประเทศไทย เผยยอดอัตราการเติบโตยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ตลาดไอทีไทยยังติดลบ ส่วนในปี 2019 และอนาคตวางแผนเติลโตอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ 4 ด้าน ทั้งสินค้า บริการ ช่องทางการขาย และวิธีสื่อสารกับตลาด
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการ บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2561 ของบริษัทฯ ว่า“ถึงแม้ตลาดไอทีโดยรวมของประเทศในปีที่ผ่านมาจะมีอัตราการเติบโตถดถอยลงอยู่ที่ -3% แต่เอปสันยังคงสามารถรักษาระดับการเติบโตทางธุรกิจไว้ได้อยู่ที่ 5%” เขายังอธิบายต่อไปว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ยังคงทำผลงานได้ดี สามารถสร้างการเติบโตได้ทั้งหมด โดยคาดการณ์ว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณของบริษัทฯ (31 มีนาคม 2562) ผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์จะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 10% ขณะที่พรินเตอร์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมจะเติบโตขึ้น 6% ส่วนกลุ่มอิงค์เจ็ทพรินเตอร์จะขยายตัวขึ้น 5% ส่วนตลาดต่างประเทศที่บริษัทฯ ดูแลอยู่ ได้แก่ เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว และปากีสถาน มีอัตราการเติบโตโดยรวม 6%
นายยรรยง เล่าถึงอนาคตของเอปสันว่า วันนี้ เอปสัน ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่เฟสใหม่ของวงจรธุรกิจหรือ S-Curve ใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นที่การสร้างตลาดและขยายฐานลูกค้าให้กับ 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญของบริษัทฯ ได้แก่ อิงค์เจ็ทพรินเตอร์ความเร็วสูง พรินเตอร์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เลเซอร์โปรเจคเตอร์ความสว่างสูง และหุ่นยนต์แขนกล ซึ่งล้วนแต่เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง มีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวและเป็นที่ต้องการอย่างมากในกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจและอุตสาหกรรม
ขอโต 5% ผ่าน 4 กลยุทธ์
ในช่วงแรกของการสร้าง S-Curve ใหม่ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 5% สำหรับประเทศไทย และ 10% สำหรับ ตลาดต่างประเทศ ซึ่งในปี 2562 นี้ ยังมีปัจจัยทั้งลบและบวกอีกมากที่ต้องจับตา แต่กระนั้นบริษัทฯ ยังมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตใน S-Curve ใหม่นี้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการกำหนดกลยุทธ์เพื่อผลักดัน S-Curve ใหม่นี้ไว้ 4 ด้าน ครอบคลุมด้านผลิตภัณฑ์ การบริการ ช่องทางจัดจำหน่าย และการสื่อสารการตลาด”
สำหรับกลยุทธ์ทางด้านผลิตภัณฑ์ เอปสัน ประเทศไทยมีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ใน 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์เข้ามาทำตลาดมากขึ้น อาทิ กลุ่มอิงค์เจ็ทพรินเตอร์ความเร็วสูง กลุ่มพรินเตอร์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม กลุ่มเลเซอร์โปรเจคเตอร์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับหุ่นยนต์แขนกล
ส่วนด้านกลยุทธ์ในการบริการ นายยรรยง ให้ข้อมูลว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างมากในการพัฒนา Service Excellence หรือความเป็นเลิศในการบริการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายความพึงพอใจในระดับสูงและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าบริษัทฯ ได้จัดตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาเพื่อตรวจสอบและพัฒนาการให้บริการ พร้อมติดตามผลการทำงานอย่างใกล้ชิดนอกจากนี้ ยังมีแผนจะลงทุนขยายศูนย์บริการเพิ่มขึ้นจาก 154 แห่งเป็น 170 แห่งทั่วประเทศ
ส่วนด้านกลยุทธ์สำหรับช่องทางจำหน่ายสินค้า ในปีนี้เอปสันจะทำการเพิ่มจำนวน Epson Authorized Partner (EAP) สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มอิงค์เจ็ทพรินเตอร์และโปรเจคเตอร์เป็น 170 รายทั่วประเทศ กลุ่มพรินเตอร์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมเป็น 13 ราย และกลุ่มหุ่นยนต์แขนกลเป็น 10 ราย ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นและเจาะเข้าตลาดใหม่ๆ ได้
สำหรับกลยุทธ์ทางการสื่อสารการตลาดจะมุ่งเน้นด้านการผสมผสานเครื่องมือการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดนอกจากนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าทำ Technology Showcase เพื่อแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีในกลุ่มต่างๆ
“การสร้าง S-Curve ใหม่ทางธุรกิจในปีนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีของบริษัทฯ เพราะเอปสันมีผลิตภัณฑ์ครบทุกไลน์ และมีจำนวนรุ่นมากเพียงพอ โดยสามารถป้อนเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องไม่ขาดช่วง จึงเชื่อมั่นว่า S-Curve ใหม่นี้จะทำให้เอปสันทำตามเป้าหมายได้อย่างดี