ตอนนี้คงไม่มีใครไม่เคยได้ยินเรื่องของบิตคอยน์และฟองสบู่ที่ลอยไปไกลถึงกาแลกซี่แอนโดรเมด้าอย่างรวดเร็ว และหลายท่านน่าจะเคยได้ยินเงินสกุลดิจิตอลชื่อดังตัวอื่นอย่าง Litecoin และ Ethereum ที่เกาะส่วนบุญล่องลอยจนไม่เห็นเงาเดิมเสียด้วย ท่ามกลางปัจจุบันที่มีเงินคริปโตเกิดใหม่รวมมากถึง 1,300 สกุล
แม้บิตคอยน์จะครองตลาดส่วนใหญ่ แต่เงินดิจิตอลสกุลอื่นก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนเขย่าวงการได้เหมือนกัน ซึ่งทาง CNBC ได้วิเคราะห์ 5 สกุลเงินคริปโตที่มีมูลค่ารวมทั่วโลกมหาศาลมากที่สุดไว้ดังต่อไปนี้
1. Bitcoin
ด้วยมูลค่ารวมทั้งหมด 2.751 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และค่าเงินที่เติบโตขึ้นมาถึงปัจจุบันมากถึง 1,590.5 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ปี 2552 ก่อตั้งอย่างลับๆ โดยชาวญี่ปุ่น Satoshi Nakamoto ด้วยเจตนาที่ต้องการสร้างเงินแบบดิจิตอลที่ใช้จ่ายซึ่งกันและกันได้โดยไม่ผ่านสถาบันการเงิน โดยใช้เทคโนโลยีที่ชื่อ Blockchain ที่เน้นกระจายอำนาจการควบคุมให้ทั่วถึงทุกคน จนไม่สามารถมีใครกุมอำนาจในการตั้งค่าหรือเปลี่ยนแปลงได้ โดยใช้เครือข่ายที่เรียกว่า “กลุ่มนักขุดเหมือง” หรือ Miner ที่อุทิศกำลังการประมวลผลคอมพิวเตอร์เพื่อร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของการโอนถ่ายเงินผ่านการเข้ารหัสคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน แต่สุดท้ายบิทคอยน์กลับกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนเรียกว่า “ทองคำดิจิตอล” และให้มูลค่ากับมันสูงมากอย่างที่เห็นๆ กัน และเป็นญี่ปุ่นประเทศแรกๆ ที่ให้การยอมรับบิทคอยน์ในการชำระเงิน แม้กระทั่งซื้อบ้าน
2. Ethereum
มูลค่ารวม 7หมื่นกว่าล้านดอลลาร์ฯ ด้วยมูลค่าที่เฟ้อขึ้นมาตั้งแต่ก่อตั้งถึง 8,812.6 เปอร์เซ็นต์ จริงๆ Ethereum เป็นชื่อบริษัท และ Ether เป็นชื่อโทเค่น แต่ปัจจุบันก็ใช้แทนกันได้ ปัจจุบันมีคณะกรรมการร่วมในการควบคุมชื่อ Enterprise Ethereum Allianceซึ่งรวมเอาบริษัทชื่อดังอย่างไมโครซอฟท์และ JPMorgan มาร่วมกันพัฒนาบล็อกเชน และออกมาเพื่อเจตนาในการใช้เป็นสัญญาดิจิตอลแบบอัจฉริยะ แทนการใช้สัญญาในรูปเอกสารฮาร์ดกํอปปี้หรือซอฟต์ก๊อปปี้ที่ผิดพลาดได้ง่ายและอัพเดตกันไม่สะดวก (ตัวเลขเงินไม่เรียลไทม์ 55)
3. Bitcoin cash
เงินคริปโตน้องใหม่ที่เพิ่งเกิดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ด้วยมูลค่ารวมทั่วโลกที่ 3 หมื่นกว่าล้านดอลลาร์ฯ และเติบโตขึ้นมาจากวันก่อตั้งประมาณ 229.6 เปอร์เซ็นต์ เกิดขึ้นเนื่องจากความกลัวความหนาแน่นของธุรกรรมของบิทคอยน์เดิม จึงเสนอทางออกในการแตกลูกเงินออกมาเหมือนลูกหุ้น เพื่อเร่งความเร็วยในการทำธุรกรรม แต่เพราะว่าไม่ใช้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยอมรับ จึงกลายเป็นการแบ่งแยกออกมาเป็นอีกสกุลต่างหากแทนด้วยปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Hard Fork”
4. Ripple
มูลค่ารวม 2 หมื่นกว่าดอลลาร์ฯ เพิ่มขึ้นมาจากวันแรกที่ 8,479.8 เปอร์เซ็นต์ โดยพุ่งเป้าเป็นโซลูชั่นการชำระเงินข้ามประเทศสำหรับสถาบันการเงินให้เร็วไม่ต้องรอข้ามวัน และไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแพงในแต่ละแบงค์ทางผ่าน โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนแทนมีสถาบันการเงินที่ร่วมทดลองตอนนี้อย่าง American Express และ Santander
5. Litecoin
มูลค่าทั่วโลก 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ มีราคาเพิ่มขึ้นจากวันก่อตั้งที่ 6,859.6 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นคู่แข่งที่ขับเคี่ยวกับบิทคอยน์ได้ใกล้เคียงที่สุดในแง่ของรูปแบบการนำไปใช้ โดยผู้ก่อตั้ง Charlie Lee โฆษณาว่าดป็นเงินคริปโตที่ใช้จ่ายเงินได้เร็วและสะดวกกว่าบิทคอยน์มาก โดยใช้เวลาทำธุรกรรมไม่ถึง 2 นาที เมื่อเทียบกับบิทคอยน์ที่ต้องรอถึงประมาณ 300 นาที โดยมีโควตาให้ทั้งหมด 84 ล้าน Litecoin เมื่อเทียบกับบิทคอยน์ที่ให้โควตาทั้งระบบบล็อกเชนที่ 21 ล้านบิตคอยน์ (ซึ่งปัจจุบันมีการขุดไปใช้แล้ว 54,293,533 litecoin และ16,740,175 bitcoin ตามลำดับ)
ที่มา : CNBC