สายการบินเดลต้า (Delta Air Lines) ได้ยื่นฟ้อง CrowdStrike บริษัทซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยในรัฐจอร์เจีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าบริษัทประมาทเลินเล่อซึ่งเกิดจากเหตุการณ์ระบบล่มในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์หลายล้านเครื่องและทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 7,000 เที่ยวบิน
สายการบินเดลต้าระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้รายได้ลดลงถึง 380 ล้านดอลลาร์ และยังก่อเกิดค่าใช้จ่ายขึ้นอีก 170 ล้านดอลลาร์ อันเกิดจากการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ผิดพลาดส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ของ Microsoft
ซึ่งไม่กี่วันหลังจากเหตุการณ์ระบบล่ม สายการบินเดลต้าได้ว่าจ้าง เดวิด โบอิส จากสำนักงานกฎหมาย Boies Schiller Flexner เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจาก CrowdStrike และ Microsoft โดยเดลต้าเรียกร้องค่าเสียหายเพื่อชดเชยความสูญเสีย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ซึ่งอาจจะมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท) และยังรวมถึงค่าเสียหายที่ศาลอาจสั่งให้ผู้กระทำผิดชำระเพิ่มเติมจากค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง (Punitive damages) อีกด้วย
พวกเขากล่าวในคำฟ้องว่า “CrowdStrike ก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายระดับโลกเนื่องจากการการกระทำที่ด่วนได้เพื่อประหยัดเวลา และหลีกเลี่ยงกระบวนการทดสอบและรับรองต่างๆ ที่พวกเขาโฆษณาไว้เพื่อประโยชน์และผลกำไรของตนเอง ซึ่งหาก CrowdStrike ทดสอบการอัปเดตที่ผิดพลาดบนคอมพิวเตอร์สักเพียงเครื่องเดียว พวกเขาก็จะรู้ว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นล่มแน่นอน”
แม้ทางสายการบินเดลต้าได้ปิดการอัปเดตอัตโนมัติจาก CrowdStrike แต่การอัปเดตนี้ยังคงเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของสายการบินอยู่ดี ในคำร้องระบุด้วยว่าซอฟต์แวร์ Falcon ของ CrowdStrike ได้สร้างและใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ที่ไม่ได้รับอนุญาตใน Windows ซึ่งสายการบินไม่ได้อนุญาตให้มีการใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CNBC