เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เจ้าของเฟสบุ๊กอย่าง Mark Zuckerberg ได้ออกชี้แจงครั้งแรกหลังกรณีสำนักข่าว The Observer (ลูกหม้อค่ายเดียวกับ The Guardian) ของอังกฤษออกมาแฉการแอบแชร์ข้อมูลโปรไฟล์เฟสบุ๊กของชาวอเมริกันกว่า 50 ล้านรายให้แก่ที่ปรึกษาด้านการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ซึ่งก่อนหน้านี้ซีอีโอเฟสบุ๊กได้เก็บตัวเงียบกริบกว่า 5 วันก่อนยอมออกมาเปิดปากว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และถือเป็นการฉีกความเชื่อมั่นของลูกค้าออกแบบไม่มีชิ้นดี พร้อมคำพูดเรียกน้ำตาแม่ยกทำนองว่า “เรามีหน้าที่ปกป้องข้อมูลของคุณ และถ้าเราไม่สามารถทำได้ เราก็ไม่มีหน้าที่จะออกมาให้บริการคุณอีก”
แต่ที่เด็ดสุดคือคำกล่าวทิ้งท้ายที่ว่า “มันเป็นมิสเท้ค” (ภาษาชาวบ้านคือฉันพลาดไปแล้ว ไม่ได้ตั้งใจนะคุณ) ทั้งนี้เราก็ไม่รู้ว่ากองเชียร์กับกองแช่งใครจะเยอะกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ หุ้นเฟสบุ๊กกลับกลายเป็นตัวฉุดกระชากตลาดสหรัฐฯ ทิ้งดิ่งไปหลายเปอร์ในวันรุ่งขึ้น ลามเลือดสาดไปถึงตลาดทั่วโลกหรือแม้แต่บ้านเราเมื่อวันศุกร์จนน้ำตาตกในไปตามๆ กัน
ที่มาที่ไปของกรณี “พ่อแคมบริดจ์นักดูด” นั้น เกิดจากทางนักวิจัยของมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ชื่อ Aleksandr Kogan ได้ใช้แอพดูดข้อมูลส่วนตัวของโปรไฟล์เฟสบุ๊กหลายล้านคนในช่วงตั้งแต่ปี 2550 – 2557 ก่อนที่เฟสบุ๊ก “อ้าง” ว่าได้จำกัดและลดชนิดข้อมูลที่จะแชร์ให้กับแอพเธิร์ดปาร์ตี้ได้
