เมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น บิตคอยน์ทำสถิติใหม่ปิดตลาดด้วยราคาสูงทะลุ 13,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (เงินไทยราวๆ 455,000 บาท) หลังจากข่าวที่คณะกรรมการหุ้นอนุพันธ์สหรัฐฯ เปิดให้ CME Group Inc. และ CBOE Global Markets ขายฟิวเจอร์สำหรับบิตคอยน์ ในขณะที่หลายคนกังวลถึงราคาที่แท้จริงที่ควรจะเป็นของเงินคริปโตทั้งหลาย และหายนะฟองสบู่ทางการเงินที่น่าจะคืบคลานมาในไม่ช้า
การพุ่งขึ้นเร็วกว่าจรวดมิสไซล์ ทวีคูณกว่าสิบเท่าจาก 1,000 ดอลลาร์ฯ เมื่อต้นปี ได้สร้างความโกลาหลต่อหน่วยงานที่ควบคุมทางการเงินทั่วโลกเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งนักเศรษฐศาสตร์ดีกรีรางวัลโนเบลอย่าง Joseph Stiglitz ยังกล่าวว่า เงินคริปโตทั้งหลายควรโดนตราหน้าว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ชี้ว่า รสชาติที่หอมหวานของบิตคอยน์มาจากวิธีการเทรดที่ไร้การควบคุมดูแลอย่างสิ้นเชิง แต่ที่ต้องจับตาในปัจจุบันคือความพยายามในการดึงบิตคอยน์ออกจากเงามืดมาอยู่ในที่สว่าง เรียกว่าโดนจับมาเฉิดฉายบนเวทีให้คนดูลุ้นวินาทีที่ฟองสบู่แตกอย่างงดงาม ซึ่งไม่รู้เมื่อไร
ล่าสุด ราคาบิตคอยน์ขึ้นมาจากวันก่อนหน้า 12.42 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 13,127.01 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ตลาดแลกเปลี่ยน Bitstamp กรุงลักเซมเบิร์ก (BTC=BTSP) หลังจากพุ่งสูงสุดระหว่างวันที่ 13,127.01 ดอลลาร์ฯ ด้วยมูลค่าการซื้อขายมหาศาลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตามธรรมชาติของฝูงเม่าน้อยที่หวาดกลัวการเสียโอกาส และเต็มไอด้วยความโลภในสายตาของประธานสมาคมบิตคอยน์ประจำฮ่องกงอย่าง Leonhard Weese