ในปีใหม่นี้ เศรษฐกิจทั่วโลกกว่าครึ่งต่างถูกพัฒนาขึ้น หรือพึ่งพาบริการทางดิจิทัลทั้งสิ้น ตามสถิติของบริษัทด้านข้อมูลการตลาดระดับโลกอย่าง IDC ได้ประมาณไว้ว่าภายในปี 2023 กว่า 90% ขององค์กรทั้งหมดจะเริ่มหันมาลงทุนกับเครื่องมือทางดิจิทัลเป็นหลักแทน
จากการลงทุนมหาศาลดังกล่าว ย่อมทำให้มีตำแหน่งงานด้านไอทีรออยู่จำนวนมากตามไปด้วย แค่ในอังกฤษอย่างเดียว จากรายงาน KPMG UK Tech Monitor ล่าสุดพบว่าไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว อัตราการจ้างงานก็สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
หรือแม้แต่ในสหรัฐฯ เอง ทาง US Bureau of Labor Statistics (BLS) ก็คาดการณ์ไว้ว่า อัตราการจ้างงานด้านเทคโนโลยีจะเติบโตขึ้นถึงปีละ 11 เปอร์เซ็นต์ไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2029 ซึ่งถือว่าโต “มากกว่าค่าเฉลี่ยในสายอาชีพอื่น”
นอกจากการจ้างแล้ว แรงงานในตลาดไอทีก็หมุนเวียนเทิร์นโอเวอร์กันเร็วมากด้วย จากการที่แต่ละบริษัทแย่งตัวพนักงานดีเด่นกันดุเดือดเลือดสาด ไฟท์กันจนทำให้เงินเดือนทั่วโลกเฟ้อขึ้นอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งล่าสุดมีงานไอทีที่จ่ายเยอะที่สุดดังต่อไปนี้
1. IoT Solution Architect (เงินเดือนเฉลี่ย 340,000 บาท)
ถือว่าเกินคาดสำหรับคนทั่วไปที่ยังนึกว่า Internet of Things (IoT) ยังอยู่ในระยะแรกเริ่ม รู้ไหมว่ามีแนวโน้มที่จะมีอุปกรณ์ IoT ติดตั้งทั่วโลกมากถึง 4 หมื่นกว่าล้านเครื่องภายในปี 2027 จากจำนวนแค่ 2 หมื่นล้านเครื่องเมื่อปี 2016
2. Big Data Engineer (เงินเดือนเฉลี่ย 279,000 บาท)
วิศวกรด้านบิ๊กดาต้าเป็นผู้คอยแปลงข้อมูลทั้งแบบ Structured, Semi-Structured, และ Unstructured ให้อยู่ในรูปข้อมูลที่นำไปใช้ประโยชน์ได้ รวมถึงออกแบบระบบจัดการข้อมูลที่รองรับการเติบโตได้ด้วย
3. Cloud architect (เงินเดือนเฉลี่ย 366,000 บาท)
สถาปนิกระบบคลาวด์ทำหน้าที่ออกแบบและพัฒนาระบบบนคลาวด์โดยเฉพาะ เป็นผู้คอยแนะนำให้ใช้ระบบแบบพับลิก, ไพรเวท, หรือไฮบริดคลาวด์อิงตามความต้องการขององค์กร
4. Computer Network Architect (เงินเดือนเฉลี่ย 303,000 บาท)
สถาปนิกด้านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Network Engineer เป็นผู้ออกแบบเน็ตเวิร์กสำหรับสื่อสารข้อมูลตั้งแต่แรกสุด เสนอรูปแบบเครือข่ายที่มีตั้งแต่ LAN, WAN, Intranet, และ Extranet
5. AI Engineer เงินเดือนเฉลี่ย (318,000 บาท)
เป็นการผสานงานด้านวิศวกรรมข้อมูล, แมชชีนเลิร์นนิ่ง, วิทยาศาสตร์ข้อมูล, และทักษะด้านพัฒนาซอฟต์แวร์ไว้ด้วยกัน เป็นงานที่สร้าง ทดสอบ และวางระบบเครือข่ายอัลกอริทึมที่ซับซ้อนที่เลียนแบบการคิดของมนุษย์
6. Software Developer (เงินเดือนเฉลี่ย 260,000 บาท)
นักพัฒนาซอฟต์แวร์สร้างแอพพลิเคชั่นที่เปิดให้ผู้ใช้เข้ามาทำงานบางอย่างบนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ คอยดูแลตัวซอฟต์แวร์ หรือกระบวนการพัฒนาเว็บทั้งหมด รวมทั้งคอยดูแลหรือ Lead โปรแกรมเมอร์ที่เขียนและทดสอบโค้ดให้
7. Quality Assurance Engineer (เงินเดือนเฉลี่ย 223,000 บาท)
งานวิศวกร QA มีบทบาทสำคัญในวงจรชีวิตการพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นผู้ทดสอบหาบั๊กและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในซอฟต์แวร์ เพื่อให้รักษาคุณภาพให้ดีที่สุด ให้แน่ใจว่าสิ่งที่ส่งมอบนั้นตรงตามสเปกและความต้องการทั้งด้านการใช้งานและดีไซน์
8. Data Scientist (เงินเดือนเฉลี่ย 313,000 บาท)
นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลเป็นผู้วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ทั้งแบบ Structured และ Unstructured เพื่อหาแนวโน้มที่แปลงมาเป็นมุมมองที่นำไปใช้ประโยชน์ได้ เหมือนกับเป็นนักสืบดูรูปแบบภายในข้อมูลเพื่อนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ
9. Information Security Analyst (เงินเดือนเฉลี่ย 265,000 บาท)
นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยข้อมูลจะมองหาช่องโหว่ในระบบดิจิทัลต่างๆ ขององค์กร ออกมาตรการด้านความปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลที่อ่อนไหวหรือเป็นความลับ ใช้ IDS ตรวจสอบทราฟิกที่น่าสงสัยบนเครือข่าย
10. DevOps Engineer (เงินเดือนเฉลี่ย 280,000 บาท)
เป็นการผูกการทำงานจากกระบวนการพัฒนาไปยังการดำเนินงานจริง จึงดูเป็นบทบาทที่ทำหลากหลายหน้าที่เพื่อคอยทำลายเส้นแบ่งเดิมที่ขีดเส้นระหว่างทีมพัฒนาซอฟต์แวร์กับทีมด้านโอเปอร์เรชั่น
11.Database Administrator (เงินเดือนเฉลี่ย 223,000 บาท)
จากข้อมูลมหาศาลที่เกิดขึ้นทั่วโลกในแต่ละวัน และส่วนใหญ่ของข้อมูลเหล่านี้ก็ถูกจัดเก็บในฐานข้อมูล แอดมินด้านฐานข้อมูลหรือ DBA จึงเข้ามาใช้ซอฟต์แวร์จัดเก็บ จัดการ จัดระเบียบข้อมูลที่สำคัญเหล่านี้
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – ITPro
//////////////////
