เมื่อพฤษภาคม 2017 เป็นครั้งแรกที่มีบันทึกว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เชื่อมต่อบนเครือข่ายถูกแรนซั่มแวร์โจมตี โดยเป็นฝีมือของขบวนการ WannaCry ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ลามมาเล่นงานอุปกรณ์ด้านฉายรังสีและอื่นๆ ในโรงพยาบาล
อีกทั้งรวมไปถึงบริการผ่านคลาวด์ที่คอยซัพพอร์ตด้านการรักษาโรคมะเร็งจนทำให้ผู้ป่วยที่รอคิวการฉายรังสีบำบัดในสถานพยาบาล 4 แห่งต้องเลื่อนนัดออกไป จากตัวอย่างนี้ทำให้เห็นว่าการโจมตีทางไซเบอร์มีผลกระทบต่อวงการแพทย์เป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นต้องเชื่อมต่อออนไลน์ หรือแม้แต่ข้อมูลทางการแพทย์ของผู้ป่วยหรือ PHI ที่จัดเก็บอยู่ในอุปกรณ์เหล่านี้ก็ต้องรับการปกป้องอย่างเพียงพอ ยิ่งตอนนี้มีการส่งต่อ PHI ผ่านคลาวด์ระหว่างเซิร์ฟเวอร์ด้วย
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นเราพบการโจมตีด้วยแรนซั่มแวร์ที่เล่นงานกลุ่มสาธารณสุขบ่อยจนกลายเป็นความเคยชิน แถมยังทวีความซับซ้อนและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเบื้องหลังระดับกลุ่มอาชญากร หรือรัฐบาลของประเทศอื่นคอยหนุนหลังด้วย
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – THN