นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ตรวจสอบพบว่า มีผู้ละเมิดข้อมูลผู้ใช้บริการ ประมาณ 100,000 รายการ อันประกอบด้วย ชื่อ-นามสกุล, เลขบัตรประชาชน, วัน-เดือน-ปีเกิด, หมายเลขโทรศัพท์ โดยไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินใด ๆ และนำไปเผยแพร่อยู่บน Dark Web ซึ่งหลังจากพบกรณีนี้ บริษัทฯ ก็ได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และกสทช. รวมถึงแจ้งไปยังลูกค้ากลุ่มดังกล่าวผ่านทาง SMS เพื่อให้รับทราบและระมัดระวังต่อไปโดยกรณีดังกล่าว “ไม่กระทบกับระบบรักษาความปลอดภัย และการดำเนินธุรกิจของบริษัท”
จากการตรวจสอบสาเหตุในเบื้องต้นพบว่า กรณีนี้เกิดจากการถูกบุกรุกด้วย Ransomware เข้ามาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ Stand Alone บางเครื่องของพนักงานที่ใช้ข้อมูลดังกล่าวในการปฏิบัติงานในช่วงระหว่างการ Work From Home และนำข้อมูลดังกล่าวออกไปเผยแพร่
ซึ่ง เอไอเอส ได้ดำเนินการตรวจสอบและให้พนักงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดปรับปรุงเวอร์ชันของซอฟต์แวร์ และระบบรักษาความปลอดภัยให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบันเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ การให้บริการของบริษัท ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากเหตุการณ์ดังกล่าว นาย ปรัธนา กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ใคร่ขออภัยจากเหตุการณ์นี้ ที่อาจจะก่อให้เกิดความไม่สะดวกแก่ลูกค้า และขอเรียนแนะนำให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวังในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่ต้องใช้ข้อมูลดังกล่าว รวมถึงตรวจสอบเพิ่มเติมกรณีอาจมีผู้แอบอ้างในการติดต่อเพื่อขอข้อมูล และการทำธุรกรรมใด ๆ กับท่าน
บริษัทฯ ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างระบบสื่อสารของประเทศเราให้ความสำคัญสูงสุดกับนโยบายด้านการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งนี้ บริษัทฯ กำลังเร่งตรวจสอบผู้ที่กระทำการดังกล่าวรวมถึงผู้ที่จะนำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป
//////////////////