Accenture (NYSE: ACN) และ SAP SE (NYSE: SAP) ประกาศความร่วมมือพร้อมสนับสนุน บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ในด้านการออกแบบ พัฒนาและวางระบบการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร (Enterprise resource planning หรือ ERP) ด้วยโซลูชัน SAP S/4HANA เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นให้แก่ IVL บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก
จากการเดินหน้าขยายธุรกิจครอบคลุมกว่า 35 ประเทศ ทำให้ IVL มีฐานข้อมูลและกระบวนการทำงานจากระบบเก่าที่หลากหลาย การปฏิรูปองค์กรสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบผ่านการวางระบบ ERP ใหม่ในครั้งนี้ จะช่วยให้ IVL สามารถเชื่อมต่อฐานข้อมูลและกระบวนการทำงานในแต่ละภาคส่วนทั่วโลกให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อยกระดับการทำงานของธุรกิจให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งในด้านระบบการดำเนินงาน การพัฒนาทรัพยากรบุคคล รวมไปถึงการบริหารประสบการณ์ลูกค้าและซัพพลายเออร์
ดร. ดีพัก พาริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกลยุทธ์ของ บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทฯ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจใช้งานระบบ ERP เพื่อเชื่อมต่อการทำงานในทุกแพลตฟอร์มเข้าด้วยกัน โดยโซลูชันที่เราเลือกใช้คือ SAP S/4HANA เราเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญของ Accenture ในการสร้างระบบเพื่อเชื่อมต่อกระบวนการทำงานและข้อมูลของ IVL ให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งจะช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลการดำเนินงานของบริษัทฯ จากที่ใดก็ได้และจัดการธุรกิจได้อย่างเหมาะสมที่สุด”
IVL จะใช้ Accenture myConcerto แพลตฟอร์มดิจิทัลครบวงจรผสานโซลูชัน SAP S/4HANA ซึ่งมีศักยภาพในการช่วยจัดการระบบให้ทำงานได้บนมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะเชื่อมโยงข้อมูลบน Microsoft Azure เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ Accenture ยังได้ใช้โซลูชันคลาวด์เพิ่มเติมจาก SAP ได้แก่ SAP® Customer Experience, SAP SuccessFactors และ SAP Concur® ซึ่งจะช่วยให้ IVL สามารถพัฒนาวิธีในการจัดการประสบการณ์ลูกค้า การบริหารทรัพยากรบุคคล ตลอดจนการจัดการเวลาการทำงานและการบริหารค่าใช้จ่ายในองค์กรให้ดียิ่งขึ้น
หลังจากเริ่มต้นใช้งานระบบอย่างเต็มรูปแบบ IVL จะสามารถยกระดับการขับเคลื่อนธุรกิจ จากศักยภาพในการตัดสินใจทางธุรกิจจากอินไซท์ที่ตอบโจทย์ นอกจากนี้ระบบดังกล่าวยังเอื้อต่อการเติบโตทางธุรกิจของ IVL ในอนาคต เพราะสามารถช่วยให้การควบรวมกิจการเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ด้วยระบบพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการปรับใช้ระบบปฏิบัติการทางธุรกิจที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
มร. อบิเชค คาโฮล กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจของ Accenture Microsoft ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกแอฟริกาและตะวันออกกลาง เสริมว่า “นับเป็นก้าวที่สำคัญของ IVL ที่หันมาปรับใช้ระบบ ERP เพื่อเชื่อมต่อทุกระบบขององค์กรเข้าด้วยกัน โดยการเลือกใช้นวัตกรรมชั้นนำทั้ง Accenture myConcerto, SAP S/4HANA และโซลูชันMicrosoft Azure จะทำให้ IVL สามารถขยายธุรกิจสู่ระดับโลก บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และวางรากฐานพร้อมรองรับศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต”
นางสาวเวเรน่า เซียว ว่าที่ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการของ SAP เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “กลุ่มธุรกิจด้านเคมีภัณฑ์ส่วนใหญ่จะมุ่งพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมที่แตกต่าง โดยยึดกลยุทธ์ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตและก้าวนำคู่แข่งไปพร้อมกับการวางระบบการทำงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง ที่ผ่านมา IVL ได้ขยายพอร์ตโฟลิโอของธุรกิจและสร้างการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด ดังนั้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อพลิกโฉมองค์กรสู่การเป็น อินเทลลิเจนท์ เอ็นเทอร์ไพรส์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้ IVL สามารถพัฒนาโมเดลธุรกิจเพื่อเพิ่มรายได้ พัฒนากระบวนการทางธุรกิจและบริการที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและซัพพลายเออร์ให้ดียิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ Accenture พร้อมช่วยสนับสนุน IVL ในการทำ change management เพื่อให้การปรับตัวสู่ระบบธุรกิจใหม่ของ IVL ประสบความสำเร็จ