บริษัท อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส จำกัด (Amazon Web Services, Inc.: AWS) บริษัทในเครือ Amazon.com ประกาศเปิดพื้นที่ให้บริการ (Availability Zone) แห่งที่สาม ภายใต้การดูแลของ AWS เอเชียแปซิฟิก (สิงคโปร์) เพื่อรองรับการขยายตัวอย่างรวดเร็วของฐานลูกค้า AWS ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก การเปิดพื้นที่ให้บริการใหม่ จะช่วยให้ลูกค้าที่ใช้บริการของ AWS อยู่แล้ว มีทางเลือกมากขึ้น มีความยืดหยุ่นขึ้น อีกทั้งไว้วางใจในระบบมากขึ้น
พื้นที่ให้บริการนี้ หมายถึงการจัดโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีในพื้นที่ต่าง ๆ แยกกัน เพื่อลดความเสี่ยงหากมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ อย่างไรก็ตาม พื้นที่เหล่านั้นก็ไม่ได้อยู่ห่างกันนัก เพื่อให้การรักษาความต่อเนื่องในการใช้งานของธุรกิจทำได้อย่างรวดเร็ว พื้นที่ให้บริการแต่ละที่ จะมีแหล่งพลังงานเฉพาะ ระบบทำความเย็น การรักษาความปลอดภัย และเชื่อมต่อกับเครือข่ายหลักของประเทศผ่านเครือข่ายไฟเบอร์ออพติกความเร็วสูง ลูกค้าของ AWS ซึ่งต้องการระบบอย่างไม่ติดขัด (High Availability) จะสามารถออกแบบให้ระบบทำงานในพื้นที่ที่ให้บริการหลายโซนได้พร้อมกัน เพื่อป้องกันความเสียหายจากระบบล้มเหลว นอกจากนี้ AWS ยังมีบริการ Amazon CloudFront ในพื้นที่หลัก ๆ เช่น กรุงกัวลาลัมเปอร์ มะนิลา และสิงคโปร์ เพื่อรองรับลูกค้าที่ให้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น และคอนเทนต์ ที่ใช้เวลาในการรับส่งข้อมูลน้อยกว่า
มร. นิค วอลตัน กรรมการผู้จัดการ อเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ประจำภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า “เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในภูมิภาคและพันธมิตรในเครือข่ายเอพีเอ็น AWS ได้เสริมศักยภาพการรองรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการเปิดพื้นที่ให้บริการแห่งที่สาม เปิดโอกาสให้ลูกค้าของ AWS มีทางเลือกในภูมิภาคเพิ่มขึ้น ว่าจะให้ระบบสำคัญ ๆ ที่มีโหลดงานหนักและงานจัดเก็บข้อมูล อยู่ในพื้นที่ใด ลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พัฒนาธุรกิจบนระบบของ AWS อย่างมุ่งมั่นมานานหลายปี เพราะเป็นระบบที่มีฟังก์ชั่นตอบโจทย์ได้ดีกว่าแพล็ตฟอร์มคลาวด์อื่น ๆ มีทั้งฐานข้อมูลที่หลากหลาย ระบบ Internet of Things (IoT) เทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิ่ง พันธมิตรในเครือข่ายเอพีเอ็นอีกมหาศาล ระบบนิเวศที่รองรับลูกค้า รวมถึงวุฒิภาวะของระบบ การรักษาความปลอดภัย และประสิทธิภาพที่เหนือชั้น”