ถ้าคุณไม่เชื่อว่าแฮ็กเกอร์อยู่ใกล้แค่หายใจรดต้นคอ ลองมาดูกรณีนี้ที่พี่เบิ้มยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างรัฐบาลสหรัฐฯ กลับโดนเล่นงานด้วยการแฮ็กกล้องวงจรปิด (IP Camera) ในเมืองวอชิงตันดีซีที่กำกับดูแลโดยสำนักงานตำรวจในท้องที่ มากถึงสองในสามของกล้องที่ติดตั้งไว้ทั้งหมด
ทางหน่วยราชการลับของสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้องชาวโรมาเนียสองคนในฐานที่แฮ็กกล้องวงจรปิดดังกล่าว โดยเมื่อตั้งแต่ช่วงวันที่ 9 – 12 มกราคม 2560 Mihai Alexandru Isvanca และ Eveline Cismaru ได้แฮ็กระบบเข้าควบคุมกล้องวงจรปิดมากถึง 123 ตัว จากทั้งหมด 187 ตัวของสำนักงานตำรวจนครบาลประจำเมืองวอชิงตันดีซีเป็นเวลาถึง 4 วัน
แต่วัตถุประสงค์ของการแฮ็กกล้องวงจรปิดครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อการแอบสอดแนมความเป็นไปในตำแหน่งต่างๆ ของเมือง เนื่องจากอาชญากรทั้งสองรายนี้ได้ใช้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตที่ควบคุมกล้องเหล่านี้ให้ส่งอีเมล์ที่แนบแรนซั่มแวร์ไปยังกลุ่มเหยื่อที่ต้องการ
การโจมตีดังกล่าวถูกหยุดยั้งได้หลังจากที่แอดมินสังเกตว่ามีกล้องบางส่วนไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ และถือโอกาสใช้ Remote Desktop Protocol (RDP) ตรวจพบคอมพิวเตอร์ที่โดนแฮ็กว่าไม่ได้รันซอฟต์แวร์ที่ทางหน่วยงานอนุญาต ซึ่งสารพัดหน้าจอที่แฮ็กเกอร์เปิดทิ้งไว้บนเครื่องมีตั้งแต่ หน้าเว็บบริการส่งอีเมล์ทั้งหลาย, หน้าเสิร์ชกูเกิ้ลเกี่ยวกับบริการตรวจสอบอีเมล์ออนไลน์, หน้า Notepad แสดงโค้ดอันตรายที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมไปถึงหน้าจอที่ออกแบบไว้สำหรับล็อกเครื่องที่พัฒนาจากแรนซั่มแวร์อย่าง Cerber, และ Dharma เป็นต้น
ที่มา : Nakedsecurity
