หน้าแรก Cloud อนาคตของโลก Wi-Fi ที่สำคัญ 5 ประการที่จะเกิดขึ้นในปี 2560

อนาคตของโลก Wi-Fi ที่สำคัญ 5 ประการที่จะเกิดขึ้นในปี 2560

แบ่งปัน
wi-fi

เทคโนโลยี Wi-Fi ในปัจจุบันถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากที่สุด โดยเฉพาะในปีที่จะถึงนี้ที่เต็มไปด้วยก้าวสำคัญของการพัฒนาด้านต่างๆ ทั้งฝั่ง Internet of Things, มาตรฐานใหม่ๆ, Wi-Fi ที่จัดการผ่านคลาวด์ และเทรนด์อื่นๆ อีกมากมาย

ด้วยข้อมูลจากทั้งพาร์ทเนอร์, ลูกค้า, และผู้เชี่ยวชาญในวงการ Wi-Fi นั้น ทำให้ทาง Network Computing ออกมาทำนายปรากฏการณ์ของ Wi-Fi ที่จะเกิดขึ้นในปี 2560 ดังต่อไปนี้

1. ระบบความปลอดภัยสำหรับ IoT แบบผสาน เนื่องจากอุปกรณ์ IoT มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนถึงหนึ่งหมื่นล้านตัวภายในปี 2563 ทำให้ความต้องการด้านเครือข่ายสูงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ Wi-Fi ที่จะต้องแบกรับภาระทราฟิกอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ของโลกเอาไว้ ซึ่งผู้จำหน่ายอุปกรณ์ IoT จำเป็นต้องพัฒนาระบบความปลอดภัยเพื่อให้เข้ากับโครงข่ายการจัดการของ Wi-Fi โดยเฉพาะเพื่อป้องกันการนำไปใช้โจมตีแบบ DDoS ที่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวขึ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมานี้

2. มีการนำคลาวด์มาใช้จัดการอุปกรณ์ Wi-Fi อย่างเข้มข้น โดยคลาวด์ได้ก้าวเข้ามาเปลี่ยนโลกของการจัดการอุปกรณ์ Wi-Fi ของผู้ใช้หลายล้านคน ให้ครอบคลุมกว้างขวาง, มีเสถียรภาพ, และมีความปลอดภัยมากขึ้นโดยเฉพาะในองค์กร และเนื่องจากหลายธุรกิจต่างพึ่งพาการเชื่อมต่อกับคลาวด์แบบ “ออนตลอดเวลา” ดังนั้น เครือข่าย Wi-Fi แค่ปลอดภัยอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ แต่ต้องสามารถตรวจสอบสถานะ และซ่อมแซมเครือข่ายด้วยตนเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งยังต้องให้สภาพแวดล้อมในการพัฒนาบริการที่ช่วยลดเวลาในการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด, ยกระดับประสิทธิภาพ, และลดค่าใช้จ่ายในการสำรองข้อมูลหรือการอัพเกรดด้านไอทีด้วย

wireless-networking

 

3. Wi-Fi จะเข้ามาแทนที่ LTE ในที่สุด เราจะได้เห็นบทสรุปของการแย่งชิงพื้นที่แบนด์วิธบนย่านความถี่ 5GHz ระหว่าง LTE และ Wi-Fi เนื่องจาก LTE เต็มไปด้วยข้อจำกัดด้านการใช้ย่านความถี่, มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูงกว่าถึง 10 เท่า, รวมทั้งคิดค่าบริการอิงตามปริมาณข้อมูลที่ใช้ ซึ่งทำให้ Wi-Fi ถูกกว่าทั้งด้านการติดตั้ง และใช้งานแบบแทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายไม่ว่าใช้มากหรือน้อยขนาดไหนสำหรับผู้ใช้งาน ยังไม่รวมถึงการติดตั้งและจัดการที่เร็วกว่ามาก และแม้ LTE จะทำงานได้ดีกลางแจ้ง

แต่ประสิทธิภาพกลับตกลงอย่างรวดเร็วเมื่อผู้ใช้ก้าวเข้ามาอยู่ในใจกลางของอาคาร ขณะที่ Wi-Fi สามารถออกแบบให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ปิดล้อมจำกัดได้ ในการหลีกเลี่ยงข้อขัดแย้งทางด้านมาตรฐานระหว่าง LTE และ Wi-Fi นั้น สหรัฐฯ จำเป็นต้องออกโปรโตคอลใหม่สำหรับทำงานร่วมกัน เหมือนกับที่ใช้จนประสบความสำเร็จในยุโรปอย่างเช่น Listen Before Talk (LBT) ที่อยู่บนมาตรฐาน IEEE 802.11 ที่ให้อุปกรณ์จำนวนมากใช้ช่องคลื่นความถี่เดียวกันได้โดยไม่ต้องจองไว้ก่อน

4. มาตรฐานใหม่ 802.11ax และ 802.11ad โดย 802.11ax จะให้ความเร็วและประสิทธิภาพการเชื่อมต่อที่เร็วกว่า 802.11ac บนย่านความถี่ 5GHz ขณะที่ 802.11ad จะใช้ย่านความถี่ 60GHz ซึ่งถือเป็น ISMเช่นกัน สำหรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูชความเร็วสูงมากในระยะทางสั้น (ต่ำกว่า 10 เมตร) ที่มีการใช้งานที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับหน้าจอแสดงภาพ, ทำดอกกิ้ง, หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพากับอุปกรณ์ด้านเสียงต่างๆ

5. ทำให้ “การเชื่อมต่อ” กลายเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ โดยโลกปัจจุบันกำลังจะถือว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ 5 ของมนุษย์แล้วนอกจากอาหาร, ที่อยู่อาศัย, เครื่องนุ่งห่ม, และยารักษาโลก ซึ่งเทคโนโลยี Wi-Fi จำเป็นต้องตอบสนองความต้องการนี้อย่างเพียงพอ, ปลอดภัย, และใช้งานอย่างเรียบง่ายที่สุด เช่น ในอนาคตผู้ใช้จะสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi สาธารณะทุกแห่งได้โดยอัตโนมัติด้วยรหัสผ่านจำเพาะของตัวเอง ทำให้ได้เครือข่าย Wi-Fi ที่ต่อเนื่องครอบคลุมทั่วโลกได้อย่างแท้จริง

ที่มา : http://www.networkcomputing.com/wireless-infrastructure/5-wifi-networking-predictions-2017/936683618