เก่าไปใหม่มาเป็นเรื่องธรรมดาของวงการไอที และล่าสุด “ณัฐพล อภิลักษณ์โตยานันท์” ก็กลายเป็นผู้บริหารระดับสูง คนใหม่ของ แซส ซอฟท์แวร์ ประเทศไทย โดยนั่งในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และ Enterprise ITPro ก็ได้มีโอกาส เข้าสัมภาษณ์พิเศษ
ณัฐพลนั้นอยู่ในวงการไอทีมานานเป็นสิบๆ ปี โดยอยู่กับบริษัทไอทีใหญ่ระดับโลกหลายแห่งด้วยกันทั้ง F5, CA และ HPE และล่าสุดก็เพิ่งมาออนบอร์ดที่แซส เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี่เอง
การมาของณัฐพล เปรียบเสมือนการเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับแซส จากที่เคยอยู่ในมือของผู้บริหารคนเก่าที่มุ่งเน้นแต่จะ ขายตรงและโฟกัสเพียงแต่กลุ่มลูกค้าเดิมๆ โดยเริ่มต้นที่มุมมองแบบผู้นำที่กล้าจะมุ่งเน้นไปสู่ตลาดใหม่ๆ ที่เขาเรียกมันว่า Beyond Banking
คำว่า Beyond Banking กล่าวคือ การที่ณัฐพลมองว่าแซสจะต้องเริ่มขยายไปสู่ตลาดอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่กลุ่มสถาบันการ เงินและธนาคาร (FSI) เพียงอย่างเดียวเพราะเขามองว่าลูกค้าในกลุ่ม Telecom, Utilities, Oil&Gas แม้แต่ภาครัฐเอง ก็เป็นตลาดที่ต้องการทูลประเภท Analytics Data เช่นกัน สิ่งนี้ทำให้แซสเริ่มหันมาแบ่งเซกเมนท์ใหม่จาก FSI กลายมา เป็นกลุ่มนี้แบ่งสัดส่วนเป็น 80% (FSI) และ 20% (Beyond Banking)
“ผมมองว่าตลาดพวก Beyond Banking ก็เป็นตลาดที่มีศักยภาพมาก และก็ต้องการเครื่องมือในการช่วยวิเคราะห์ ข้อมูลด้วยเช่นกัน เช่นอุตสาหกรรมเทเลคอม, หรือแม้กระทั่งภาครัฐอย่างเช่นพวกสำนักงานสถิติ หรือ พวกศุลกากร ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของเรา ซึ่งกลุ่มเหลานี้ก็ไม่ใช่กลุ่มธนาคารเลย” นายใหญ่ของแซสกล่าว
ปัจจุบันแซสเองได้พัฒนาโซลูชั่นออกมามากมายทั้งนี้เพื่อให้สอดรับนโยบาย Thailand 4.0 โดยมีเครื่องมืออาทิเช่น
1 โซลูชั่นการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data)
2 โซลูชั่นการบริหารจัดการความเสี่ยงและภัยคุกคาม (Risk & Threat Management)
3 โซลูชั่นสำหรับช่วยองค์กรในการทำงานด้าน Internet of Thing (IoT)
4 โซลูชั่นที่สามารถทำงานบนคลาวด์ อาทิ CI360 และ แพลตฟอร์มเปิด SAS Viya เป็นต้น
วางแผนเติบโตในระยะ 3 ปี
ณัฐพลบอกว่า กลุ่มใหม่และผลิตภัณฑ์ใหม่นี้จะสามารถเติบโตเป็นเท่าตัวได้ภายในระยะเวลาประมาณ 3 ปี ซึ่งสิ่งที่เขา เชื่อมั่นอย่างนั้นที่จะสามารถทำได้ดังเป้าหมาย ก็เพราะวางกลยุทธ์ไว้สองประการสำคัญ คือ 1) การเพิ่มทีมงานขายให้มากขึ้น และ 2) การเซตทีมงานที่จะเข้าไปคุยกับพาร์ทเนอร์ประเภท SI มากขึ้น
เขายังกล่าวอีกว่าที่ผ่านมา SAS เน้นแต่ขายตรงไม่ค่อยผ่านกลุ่มพาร์ทเนอร์หรือ SI เท่าไหร่ นั่นจึงทำให้ตลาดที่แซ สขายอยู่ก็อยู่แค่ในกลุ่มพวกสถาบันการเงินเท่านั้น แต่เมื่อเขาเป็นผู้บริหารแล้ว เขาจะเปลี่ยนแปลงโดยเริ่มหันไปคุยกับ พาร์ทเนอร์มากขึ้นกว่าที่เคย ปัจจุบันตอนนี้มียิปอินซอยเป็นพาร์ทเนอร์หลักที่สามารถอิมพลีเมนท์ระบบของ SAS ได้ และจะมีเพิ่มอีก 2-3 รายภายในปีนี้
“SI และพาร์ทเนอร์หลายคนแปลกใจที่เรา (SAS) เข้าไปพบพวกเขา เพราะที่ผ่านมาแซสเน้นแต่ขายตรงเข้าลูกค้าอย่าง เดียว ซึ่งการที่เรามาบุกกลุ่ม Beyond Banking นั้นผมมองว่าพาร์ทเนอร์เป็นสิ่งสำคัญและเชื่อด้วยว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่าในอดีต” – เขากล่าว
ประเด็นสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจก็คือผลิตภัณฑ์คลาวด์ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าเช่นตัว CI360 ณัฐพลบอกว่าการมีโซ ลูชั่นคลาวด์เข้ามาจะทำให้ลูกค้าประเภท SMB สามารถหาใช้งานผลิตภัณฑ์ของแซสได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน ซึ่งจะส่ง ผลดีต่อแซสในการขยายฐานสู่ตลาดองค์กรขนาดกลางด้วยเช่นกัน ต่อข้อคำถามที่ว่าลูกค้าประเภท Beyond Banking นั้นจะมี Skill เพียงพอที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ของแซสได้มากน้อยแค่ไปไหน ณัฐพลบอกว่าปัจจุบันมีทีมงานเทรนนิ่งและ อบรมการใช้ผลิตภัณฑ์อยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างเช่นหลักสูตรเริ่มต้นการใช้งานนั้น เพียงแค่อบรม 3-5 วันก็สามารถใช้ งานผลิตภัณฑ์ของแซสได้แล้ว นั่นจึงทำให้ลูกค้าใหม่ๆ ไม่ต้องกังวลใจในการใช้งาน SAS เลย
บทสรุป
ณัฐพล เป็นผู้บริหารที่มีความมุ่งมั่นและความตั้งใจในการนำพาแซสไปข้างหน้า ด้วยการมองเห็นศักยภาพของตลาดในกลุ่มใหม่ข้างต้น (ซึ่งผู้บริหารคนเก่าอาจจะละเลยในจุดนี้ไป) รวมทั้งวิสัยทัศน์ในการมองไปข้างหน้า ประกอบกับประสบการณ์ด้านการขายที่มาจากบริษัทไอทีชั้นนำหลายแห่ง น่าจะเป็นส่วนผสมแห่งความสำเร็จของแซสในปีหน้าและปีต่อไป แต่อย่างไรก็ตามตลาดที่แซสดูอยู่นั้นก็หินพอสมควร หมากเกมนี้คงจะต้องดูกันไปอีกสักตั้ง !