หน้าแรก Networking & Wireless Access Point HPE ประกาศขยายระบบ ‘HPE Aruba Networking Central’

HPE ประกาศขยายระบบ ‘HPE Aruba Networking Central’

แบ่งปัน

บริษัทฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ (HPE) ประกาศเดินหน้าขยายบริการ HPE Aruba Networking Central ซึ่งเป็นโซลูชันการจัดการเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยเน้นความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ มาพร้อมด้วยข้อมูลและคุณสมบัติ AI ใหม่ ๆ รวมถึงการผสานระบบเข้ากับ OpsRamp เพื่อการตรวจสอบอุปกรณ์เครือข่ายของคู่ค้าอื่น ๆ ในสายธุรกิจเดียวกัน ไม่ว่า Cisco, Juniper Networks และ Palo Alto Networks

คุณสมบัติใหม่ของ HPE Aruba Networking Central ครอบคลุมถึงเครื่องมือกำหนดค่าอุปกรณ์เครือข่ายที่ได้รับการปรับปรุงความสามารถในการตรวจสอบเครือข่ายที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายด้วยการขับเคลื่อนข้อมูลเชิงลึกจาก AI ผ่านฐานลูกค้าที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายพลาศิลป์ วิชิวานิเวศน์ กรรมการผู้จัดการ ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า “แพลตฟอร์ม HPE Aruba Networking Central นับเป็นอีกก้าวของอนาคตที่สำคัญ ด้วยเป็นการขับเคลื่อนด้วย AI ผ่านระบบการจัดการในรูปแบบคลาวด์เนทีฟที่ทันสมัย ซึ่งไม่เพียงตอบสนองความต้องการในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้สามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

การขยายข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของเราในตรวจสอบการทำงานของเครือข่ายและการสร้างความปลอดภัยแก่คู่ค้าในอุตสาหกรรมที่หลากหลายนี้ เราพบว่ามีข้อได้เปรียบที่ชัดเจน ด้วยทำให้สามารถควบคุม คาดการณ์ และจัดการเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แพลตฟอร์มนี้จึงสามารถช่วยกลุ่มคู่ค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบในการดำเนินกลยุทธ์เครือข่ายผ่านระบบ AI ซึ่งสามารถเพิ่มความมั่นใจและความแม่นยำในการทำงาน”

นอกจากนี้ HPE Aruba Networking Central ยังได้ขยายคุณสมบัติด้วย Digital Experience Monitoring (DEM) ผ่านการผสานการทำงานของ HPE Aruba Networking User Experience Insight (UXI) ร่วมกับอินเทอร์เฟซของระบบ และเมื่อทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ HPE Aruba Networking UXI คุณสมบัติดังกล่าวจะช่วยให้สามารถตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติตามข้อตกลงระดับการให้บริการ (SLA) จากผู้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องจากผู้ใช้งานไปยังแอปพลิเคชันผ่านการตรวจสอบได้จากหน้าจอเดียว

คุณสมบัติที่เพิ่มเติมดังกล่าว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้นถึง 3 เท่าผ่านโมเดลที่ฝึกอบรมด้วย AI ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการวางแผน ปรับใช้ จัดการ แก้ไขปัญหา และเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายได้มากยิ่งขึ้น โดยในขณะนี้ โมเดล AI ที่ได้รับการจำแนกประเภทและปรับแต่งใหม่ มีพื้นฐานมาจากคลังข้อมูลที่มีเทคโนโลยีการตรวจวัดระยะไกลอัตโนมัติ (Telemetry) จากอุปกรณ์ที่เครือข่ายดูแลมากกว่า 4.6 ล้านเครื่อง และอุปกรณ์ปลายทางรูปแบบต่าง ๆ ของลูกค้ามากกว่า 1.6 พันล้านเครื่อง ซึ่งนับเป็นการเติบโตแบบทวีคูณในปี 2567 นี้