ระบบนี้มีรหัสว่า Hala Point เป็นระบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้างของสมองมนุษย์ โดยใช้ชิประมวลผล Loihi 2 จำนวน 1,152 ตัว บรรจุอยู่ในตู้ขนาดเท่ากับเตาไมโครเวฟ เพื่อใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์
คอมพิวเตอร์ควอนตัม (Quantum computer) ถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกของคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว แต่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัมยังไม่สามารถย่อขนาดให้เล็กและผลิตจำนวนมากได้ นอกจากนี้ ยังไม่มีระบบปฏิบัติการ ภาษาโปรแกรม และแอปพลิเคชันที่พร้อมใช้งานอย่างแพร่หลาย
ทำให้มีอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่กำลังมาแรงและน่าจะมีผลกระทบในเร็วๆ นี้คือ Neuromorphic computing ซึ่งเป็นการออกแบบชิประมวลผลโดยเลียนแบบโครงสร้างการทำงานของสมองมนุษย์ ตัวอย่างเช่น เซลล์ประสาท (Neuron) ในสมองทำหน้าที่ทั้งการประมวลผลและเก็บข้อมูล ในขณะที่คอมพิวเตอร์แบบเดิมแยกการทำงานส่วนออกจากกัน ส่งผลให้การส่งข้อมูลไปมาระหว่างหน่วยความจำและ CPU ต้องใช้เวลาและพลังงาน
นอกจากนั้น ระบบคอมพิวติ้งแบบนี้จะทำงาน เฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น ยิ่งช่วยลดการใช้พลังงานลงไปอีก ผลลัพธ์ที่ได้คือระบบ Neuromorphic computing จะมีความสามารถในการประมวลผลแบบขนานได้อย่างมหาศาล ซึ่งเหนือกว่าสถาปัตยกรรม GPU แบบเดิมมาก Lian Jye Su นักวิเคราะห์จาก Omdia กล่าว
และตามที่ Gartner บริษัทวิจัยด้านไอทีชั้นนำได้เคยระบุไว้ว่าระบบ Neuromorphic computing เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีศักยภาพมากที่สุดที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงตลาดต่างๆ ในวงกว้าง เนื่องจากเป็น “ตัวช่วยสำคัญ” แต่คาดว่ายังคงต้องใช้เวลาอีก 3-6 ปีจึงจะมีผลกระทบที่ชัดเจน
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – NW
