ในวงการ AI ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อลองมองย้อนกลับไปในปี 2023 เราได้เห็นบริษัทใหม่ๆ โผล่ขึ้นมา ท้าทายผู้เล่นเก่าเป็นจำนวนมาก และเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2024 ซึ่งเป็นที่เราคาดว่าจะมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอีกมากมาย มีบริษัท AI หลายรายที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเพราะโซลูชันอันล้ำสมัยของพวกเขา แต่ยังรวมถึงแนวทางสร้างอนาคตอัจฉริยะด้วย
โดยบทความนี้จะพาคุณไปสำรวจบริษัท AI ล้ำสมัยที่จะท้าทายผู้นำด้าน AI อย่าง OpenAI ได้ในปี 2024 โดยบริษัทเหล่านี้ผ่านการคัดเลือกโดยพิจารณาจากเกณฑ์ที่เข้มงวดต่าๆ อาทิ การได้รับการสนับสนุนจากบริษัทร่วมทุนหรือบริษัทยักษ์ชั้นนำ, มีการดำเนินงานมาอย่างน้อย 2 ปี รวมถึงทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ทำงานหรือการศึกษาจากสถาบันที่มีชื่อเสียง
1. Anthropic
Anthropic ก่อตั้งโดยพี่น้อง Dario และ Daniela Amodei อดีตพนักงานของ OpenAI บริษัทพัฒนาเทคโนโลยี AI ระดับแนวหน้า โดยเน้นความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และความสามารถในการแปลความ Anthropic ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของ OpenAI โดยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ตระกูล Claude ของพวกเขาเทียบเคียงได้กับ ChatGPT เลยทีเดียว ซีอีโอ Dario Amodei เคยเข้าร่วมประชุมผู้นำด้าน AI ร่วมกับประธานาธิบดี Biden นายกรัฐมนตรี Sunak แห่งสหราชอาณาจักร และบุคคลสำคัญอื่นๆ
2. Cohere
Cohere บุกเบิกวงการปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) สำหรับองค์กร ด้วยการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ทรงพลัง แพลตฟอร์มของ Cohere เป็นทางเลือกหนึ่งแทน OpenAI โดยมีลูกค้าระดับโลกอย่าง Spotify, Glean และ Oracle รวมอยู่ด้วย บริษัท McKinsey ยังนำเสนอเทคโนโลยีของ Cohere ให้ลูกค้าใช้เพื่อยกระดับการดำเนินงาน และ Cohere ยังเคยตกเป็นข่าวในฐานะผู้ซื้อ Stability AI สตาร์ทอัพที่สร้างสรรค์ Stable Diffusion โมเดลสร้างภาพสุดฮิต
3. AI21 Labs
นับเป็นอีกหนึ่งคู่แข่งสำคัญของ OpenAI, AI21 Labs มุ่งพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ โดยเฉพาะตระกูล Jurassic ที่ทรงพลังอย่าง Jurassic-2 โมเดลเหล่านี้ขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม NLP-as-a-service ของ AI21 เอง นามว่า AI21 Studio ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือ AI นอกจากนี้ AI21 ยังพัฒนา Contextual Answers เครื่องมือ AI ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างความสามารถในการค้นหาข้อมูลภายในแอปพลิเคชันของตนเอง
4. Hugging Face
ปี 2023 นับเป็นปีทองของ Hugging Face เลยทีเดียว บริษัทกลายเป็นแหล่งรวมโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สยอดนิยมมากมาย อาทิ Llama 2 และยังจับมือกับยักษ์ใหญ่วงการเทคโนโลยีอย่าง Dell และ AWS รวมถึงปล่อยโมเดล AI ของตัวเองอีกด้วย
5. Aleph Alpha
Aleph Alpha คือสตาร์ทอัพชื่อดังจากเยอรมัน ผู้อยู่เบื้องหลังโมเดลภาษาขนาดใหญ่อย่าง “Luminous” บริษัทนี้ทุ่มเทพัฒนาโมเดลหลากหลาย รวมถึงระบบมัลติโมดัล (multimodal systems) ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการใช้งานระดับองค์กร นอกจากนี้ Aleph Alpha ยังสร้างสรรค์โซลูชัน AI สำหรับภาคส่วนรัฐบาล ช่วยให้หน่วยงานต่างๆ สามารถนำ AI ไปใช้ “ภายในสภาพแวดล้อมแบบ sovereign ด้วย”
6. Scale AI
Scale AI บริษัทปัญญาประดิษฐ์จากซานฟรานซิสโก ให้บริการเครื่องมือและเทคโนโลยีสำหรับองค์กรต่างๆ ในการฝึกฝนและทำลาเบลให้กับข้อมูล AI ของตนเอง ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา OpenAI เองก็เคยจับมือกับ Scale AI เพื่อปรับแต่งและยกระดับรุ่นซูเปอร์ชาร์จของโมเดลภาษาขนาดใหญ่ GPT มาแล้ว ซึ่งนอกจาก OpenAI เเล้ว Scale AI ยังเคยร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่มากมาย อาทิ Meta, Microsoft, Toyota และ General Motors อีกด้วย
7. Tenstorrent
Tenstorrent เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายโปรเซสเซอร์สำหรับ AI นอกจากนี้ยังให้สิทธิ์ใช้งานทรัพย์สินทางปัญญาในด้าน AI และ CPU แก่ลูกค้าที่ต้องการเป็นเจ้าของและปรับแต่งตามความต้องการ เทคโนโลยีของ Tenstorrent สามารถใช้ได้ทั้งสำหรับเทรนและการแทรกแซงโดยอาศัยฮาร์ดแวร์ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเวิร์กโหลด AI
อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – DCK
