ข้อมูลคือรากฐานของระบบการผลิตอัจฉริยะ โดยมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรม ตามรายงานของ IDC คาดการณ์ว่าขนาดของปริมาณการใช้ข้อมูลทั่วโลก ซึ่งคือปริมาณข้อมูลที่สร้างขึ้นและใช้ประจำปีจะเพิ่มขึ้นจาก 45 เซตตะไบต์ในปี 2019 เป็น 175 เซตตะไบต์ในปี 2025
การเติบโตอย่างมหาศาลของข้อมูลนี้ ถูกขับเคลื่อนโดยการเพิ่มขึ้นของอุปกรณ์และเซ็นเซอร์ที่เชื่อมต่อ การนำเทคโนโลยี Industry 4.0 มาใช้ และการใช้พื้นที่เก็บข้อมูลและการประมวลผลที่เพิ่มขึ้น คาดว่าอุตสาหกรรมภาคการผลิต จะเป็นหนึ่งในผู้สร้างข้อมูลอันดับต้นๆ ของการเติบโตของข้อมูลนี้ โดยสร้างข้อมูลขึ้นในทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ตั้งแต่การออกแบบ วิศวกรรม การผลิต และขั้นตอนการจัดส่ง
ในการจัดการการเติบโตของข้อมูลและรับคุณค่าจากข้อมูลนี้ บริษัทในอุตสาหกรรมภาคการผลิตหลายแห่ง กำลังเริ่มการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล จากรายงานของ Deloitte ผู้บริหารการผลิต 94% เชื่อว่า การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลจะมีความสำคัญต่อความสำเร็จของบริษัทของตน ในอีกห้าปีข้างหน้า รายงานดังกล่าวยังพบว่าบริษัทผู้ผลิตชั้นนำมีแนวโน้มที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Internet of Things (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ขั้นสูง และมองเห็นประโยชน์ในด้านของการเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงาน คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และประสบการณ์ของลูกค้า
ความท้าทายของการจัดการข้อมูลในระบบการผลิตอัจฉริยะ
ในบริบทของการผลิตอัจฉริยะ การจัดการข้อมูลสามารถแบ่งออกเป็นสี่ขั้นตอนตอนตามลำดับ ของการประมวลผลข้อมูล และความท้าทายของการจัดการข้อมูล ในแต่ละขั้นตอนจะแตกต่างกัน
ขั้นแรก ความท้าทายจากการรวบรวมข้อมูลจากแพลตฟอร์มและไซต์การผลิตจำนวนมากโดยอัตโนมัติ
ขั้นที่สอง ต้องมีคลังข้อมูลที่ปรับขยายได้มากและง่ายต่อการจัดการเพื่อรองรับข้อมูลการผลิตจำนวนมหาศาลเหล่านี้
ขั้นที่สาม ต้องใช้ความเร็ว I/O สูงในการเข้าถึงและเรียกดูข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงงาน ที่ต้องการการวิเคราะห์ด้วย AI
ขั้นสุดท้าย อุตสาหกรรมภาคการผลิตจะต้องเผชิญกับความเสี่ยง ด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่เพิ่มขึ้น จากการปรับใช้งาน การรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งตลอดขั้นตอนการประมวลผลข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
Synology ได้มีส่วนช่วยลูกค้าหลายแสนรายทั่วโลกในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ในจำนวนนี้เป็นบริษัทผู้ผลิตชั้นนำหลายรายที่ใช้โซลูชันของเรา เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม ระบบการผลิตอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ทำให้พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ มีมูลค่าจากปริมาณข้อมูลจำนวนมาก และประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล
เพิ่มประสิทธิภาพและความสมบูรณ์ของข้อมูลด้วยการรวบรวมข้อมูลอัตโนมัติ
ขั้นตอนแรกในระบบการผลิตอัจฉริยะคือการรวบรวมข้อมูล ไม่ว่าจะเพื่อปรับปรุงผลผลิตหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต จำเป็นต้องรวบรวมกระบวนการผลิตที่เพียงพอเพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
อย่างไรก็ตามโรงงานผลิตหลายแห่งไม่มีบุคคลากรด้านไอทีที่เพียงพอ ที่จะผนวกรวมการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่องจักร และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลต่างๆ ภายในโรงงาน เป็นผลให้พวกเขา มักจะใช้วิธีการถ่ายโอนข้อมูลสายการผลิตด้วยตนเอง ไปยังอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลส่วนกลาง ซึ่งไม่เพียงแต่จะลดประสิทธิภาพของพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และการดึงข้อมูลเท่านั้น แต่ยังต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินการของบุคคล ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดช่องว่างในกระบวนการ และการบันทึกข้อมูล ที่ไม่ครบถ้วนได้โดยไม่ตั้งใจ
Synology สามารถช่วยอุตสาหกรรมการผลิตเหล่านี้ด้วยโซลูชันการซิงโครไนซ์ไฟล์ เมื่อติดตั้งไคลเอนต์เดสก์ท็อปใน local device ก็จะสามารถสร้างงานการซิงโครไนซ์เพื่อจัดเก็บข้อมูลแบบรวมศูนย์ใน Synology NAS ได้โดยอัตโนมัติ และยังเก็บรักษาข้อมูลหลายเวอร์ชัน เข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนกลับไปยังไฟล์ก่อนหน้าได้เมื่อจำเป็น ช่วยรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูล
นอกจากนี้ การใช้ประโยชน์จากความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลจากระยะไกลหรือแพ็คเกจการซิงค์ของ NAS ยังทำให้วิศวกรในแผนกทดสอบของลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องอยู่ที่โรงงาน ซึ่งไม่เพียงช่วยประหยัดกำลังคน แต่ยังอำนวยความสะดวกในการวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญเชิงลึก เช่น ผลผลิต เป็นต้น
การปรับใช้งานการซิงโครไนซ์แบบเดียวกันยังสามารถใช้ในการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานใหญ่และหลายโรงงาน สำนักงานใหญ่เพียงต้องสร้างงานการซิงโครไนซ์กับเซิร์ฟเวอร์ไฟล์ของโรงงานสาขา และเมื่อพวกเขาอัปโหลดการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือแผนภูมิไปยังโฟลเดอร์ส่วนกลาง จะมีการซิงค์ข้อมูลและกระจายข้อมูลไปยังโรงงานสาขาโดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลเหล่านั้นจะรั่วไหล
โดยพื้นฐานแล้ว โซลูชันการซิงโครไนซ์ไฟล์ของ Synology กลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมภาคการผลิต ทำให้สามารถจัดการข้อมูล เข้าถึงข้อมูล และทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นในระดับปฏิบัติการที่หลากหลาย
การสร้างคลังข้อมูลระดับเพตะไบต์
นอกจากการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้ว พื้นที่จัดเก็บข้อมูลสำหรับข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก็ยังเป็นความท้าทายที่สำคัญ องค์กรต่างๆ มักจะต้องพบกับปัญหาในการปรับขยายของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ไม่เพียงพอ หรือมีต้นทุนค่าพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่สูง Synology มีเซิร์ฟเวอร์พื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ความหนาแน่นสูงรุ่น HD6500 ซึ่งสามารถให้พื้นที่จัดเก็บระดับเพตะไบต์ สูงสุด 60 ฮาร์ดดิสก์ในเครื่องเดียว และสามารถขยายได้สูงสุด 300 ฮาร์ดดิสก์ ซึ่งให้พื้นที่จัดเก็บ 5 เพตะไบต์
เมื่อรวมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่กับโซลูชันการซิงค์ไฟล์ บริษัทการผลิตต่างๆ จะสามารถสร้างสถาปัตยกรรมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มั่นคงสำหรับข้อมูลการผลิตได้อย่างง่ายดาย ตัวอย่างเช่น สามารถปรับใช้งานอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขนาดเล็กกับแต่ละสายการผลิตเพื่อจัดเก็บข้อมูลที่ต้องให้ลูกค้าดึงไปในแต่ละปี ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ของโรงงานสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลที่ต้องตรวจสอบหรือวิเคราะห์ได้ภายในสองปี ในทางกลับกัน สามารถสำรองข้อมูลหรือจัดเก็บข้อมูลการผลิตที่มีอายุมากกว่าสองปีไว้ที่คลังข้อมูลระดับเพตะไบต์ที่สำนักงานใหญ่เพื่อการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว
ตอบสนองความต้องการในการวิเคราะห์ด้วย AI และแปลงข้อมูลเป็นข้อมูลเชิงลึก
หลังจากรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลอย่างเหมาะสมแล้ว สาระสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในระบบการผลิตอัจฉริยะอยู่ที่การใช้และวิเคราะห์ข้อมูลการผลิตที่รวบรวมมา บางครั้งอาจเกี่ยวข้องกับการฝึก AI เพื่อสร้างโมเดลที่เพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตในระบบการผลิต อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูล big data หรือการฝึกแบบจำลอง AI ปัญหาคอขวดด้านประสิทธิภาพโดยทั่วไปมักจะเกิดขึ้นใน I/O ของฮาร์ดดิสก์แบบทั่วไป
เซิร์ฟเวอร์พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ all-flash ของ Synology สามารถนำเสนอวิธีแก้ปัญหานี้ได้ โดยมอบ IOPS สูงถึง 240,000 เพื่อตอบสนองความต้องการด้าน I/O ที่มากซึ่งจำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับสถาปัตยกรรม Kubernetes ที่ใช้กันทั่วไปในการสร้างเฟรมเวิร์กการฝึก AI นั้น Synology นั้นเหมาะสมอย่างยิ่งกับสภาพแวดล้อมดังกล่าว รุ่น all-flash รองรับโปรโตคอลการส่งข้อมูลต่างๆ รวมถึง CIFS, NFS และ iSCSI สำหรับไมโครเซอร์วิสบนระบบ Kubernetes นอกจากนี้ยังมีไดรเวอร์ Synology CSI สำหรับ Kubernetes ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกได้อย่างอิสระตามความต้องการเฉพาะของข้อมูลและการถ่ายโอนไฟล์
การปกป้องข้อมูลจากแรนซัมแวร์ที่ครอบคลุม
เมื่อเกิดการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมการผลิตอย่างต่อเนื่อง องค์กรแฮ็กเกอร์ได้หันเหความสนใจมาที่ธุรกิจภาคส่วนนี้ โดยใช้แรนซัมแวร์เข้ารหัสเพื่อเรียกค่าไถ่ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์เหล่านี้ การสำรองข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปกป้องข้อมูลประเภทต่างๆ รวมถึงข้อมูลกระบวนการผลิต ข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์การผลิตอัจฉริยะ และข้อมูลการทำงานร่วมกันของพนักงานในองค์กร ในส่วนนี้ Synology นำเสนอโซลูชันการปกป้องข้อมูลที่ครอบคลุมเพื่อช่วยลูกค้าในการสร้างสถาปัตยกรรมการสำรองข้อมูลแบบ 3-2-1 ที่มีประสิทธิภาพ
ประการแรก ด้วยฟังก์ชัน Snapshot Replication ในตัวของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล จะสามารถสแนปช็อตไฟล์ได้เร็วที่สุดทุกๆ ห้านาที ถึงแม้ไฟล์จะถูกเข้ารหัส หรือเกิดการลบฐานข้อมูลโดยไม่ตั้งใจก็จะกู้คืนได้อย่างรวดเร็ว ลูกค้ายังสามารถคัดลอกสแนปช็อตไปยังเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลเพื่อสำรองข้อมูล offsite หรือสำรองข้อมูลไปยังคลาวด์สาธารณะ เช่น Synology C2 ผ่าน Hyper Backup แพคเกจการสำรองข้อมูลหลาย Endpoint
นอกจากการปกป้องอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลของ Synology แล้ว Synology ยังมี Active Backup for Business ซอฟต์แวร์การสำรองข้อมูลที่ปลอดค่าสิทธิ์การใช้งานที่รองรับการสำรองข้อมูล physical machine Windows Linux หรือ Virtual Environment เช่น VMware และ Hyper-V หรือแม้แต่ PC ของพนักงาน
เมื่อใช้โซลูชันการสำรองข้อมูลเหล่านี้ร่วมกัน องค์กรจะสามารถดำเนินการตามแผนการสำรองข้อมูล 3-2-1 ได้อย่างง่ายดาย แพคเกจการสำรองข้อมูลแบบเนทีฟของ Synology โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับสิทธิ์การใช้งานซอฟตืแวร์ ช่วยให้องค์กรประหยัดงบประมาณได้จำนวนมาก
เพิ่มศักยภาพให้ระบบการผลิตอัจฉริยะด้วยแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลที่ครอบคลุม
Synology มอบโซลูชันการจัดการข้อมูลที่ครอบคลุมสำหรับระบบการผลิตอัจฉริยะ ซึ่งครอบคลุมการรวบรวมข้อมูลอัตโนมัติ พื้นที่จัดเก็บข้อมูลความจุสูง พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ all-flash สำหรับการวิเคราะห์ด้วย AI และการปกป้องข้อมูลอย่างละเอียดทั่วทั้งแพลตฟอร์มและรองรับอุปกรณ์ที่หลากหลาย แพลตฟอร์มที่ครอบคลุมทั้งหมดนี้ไม่เพียงทำงานได้อย่างสมบูรณ์ แต่ยังเป็นมิตรกับผู้ใช้ พร้อมรองรับระบบการผลิตอัจฉริยะโดยเฉพาะ
การปรับใช้งานแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมนี้ช่วยให้องค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถเข้าถึงระดับใหม่ของการแข่งขันทางธุรกิจได้ พร้อมกับช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า และเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลได้โดยประสบความสำเร็จ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลด้วยโซลูชันจาก Synology: https://sy.to/el5yj