จำนวนประชากรที่เติบโตอย่างรวดเร็วและความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยและปัญหาที่เกิดขึ้นกับซัพพลายเชนที่ทวีความรุนแรงขึ้นในภูมิภาคอาเซียน ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความท้าทายด้านความมั่นคงด้านอาหารในอนาคตของภูมิภาคซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายในการพัฒนาสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ประเด็นดังกล่าวได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในงาน ‘A Growing ASEAN, A Hungry Population: Building Resilient and Sustainable Food Supply Chains’ จัดโดย เอสเอพี ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้นำทางธุรกิจทั่วทั้งระบบนิเวศอาหารของภูมิภาค ครอบคลุมธุรกิจในหลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตร การผลิต การจัดจำหน่าย การขนส่ง โดยมีตัวแทนจากองค์กรชั้นนำในภูมิภาคอาเซียนอย่าง Dole Asia Holdings ผู้นำระดับโลกด้านการเพาะปลูก จัดหา จัดจำหน่าย และทำการตลาดผลิตภัณฑ์ผลไม้และอาหารว่างเพื่อสุขภาพ, Loc Troi ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการชั้นนำด้านการเกษตรด้วยการจัดการซัพพลายเชนยั่งยืนผ่านการวิจัย การผลิต และการขายผลิตภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ ยาป้องกันวัชพืช ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ชีวภาพ ข้าวและกาแฟพร้อมด้วย บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด, บริษัทในเครือของ บุญรอดบริวเวอรี่ ร่วมแนะแนวทางจัดการซัพพลายเชนยั่งยืน
ตามการประมาณการครั้งล่าสุดโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่าประมาณหนึ่งในสามของอาหารที่ผลิตได้ทั้งหมดหรือ 1.3 พันล้านตันจะสูญเสียไปทุกปี ซึ่งมีส่งผลให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกถึง 8-10%
ผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่มีบทบาทในอุตสาหกรรมได้กล่าวถึงโอกาสที่รออยู่ข้างหน้าสำหรับภูมิภาคอาเซียนซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีศักยภาพในด้านการผลิตเชิงการเกษตรมากที่สุดภูมิภาคหนึ่งในโลก โดยพูดถึงการลงทุนในการขับเคลื่อนธุรกิจด้านการเกษตรผ่านการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การเสริมสร้างความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม การสร้างระบบดิจิทัลซัพพลายเชน รวมถึงการสร้างซัพพลายเชนให้มีความยืดหยุ่นพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลง และกิจกรรมอื่น ๆ ในห่วงโซ่คุณค่าเพื่อขับเคลื่อนอนาคตของภูมิภาคในด้านอาหาร
เกษตรกรรมและอาหารต่างเป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับเศรษฐกิจและ GDP ของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สำคัญที่ทำให้เกิดการจ้างงานของแรงงานในภูมิภาค ผู้ผลิตอาหารจำเป็นต้องเพิ่มผลผลิตให้ได้สูงสุดจากพื้นที่เพาะปลูกเพื่อผลผลิตที่เหมาะสม ลดของเสียจากการผลิต และอื่น ๆ
เวเรน่า เซียว ประธานและกรรมการผู้จัดการของ เอสเอพี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เนื่องจากอุตสาหกรรมอาหารในภูมิภาคนี้มีความหลากหลายโดยมีธุรกิจที่ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตไปจนถึงค้าปลีกและร้านอาหาร ธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องการความช่วยเหลือในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลการดำเนินงานของธุรกิจแบบ end-to-end การคาดการณ์ถึงดีมานด์ล่วงหน้าผ่านบิ๊กดาต้าเพื่อให้ส่งอาหารได้ทันท่วงที รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพของซัพพลายเชนแบบองค์รวม ซึ่งทั้งหมดนี้จะสามารถช่วยลดปัญหาการขาดแคลนอาหารได้อย่างยั่งยืน”
ภายในงาน ลีโอนาร์โด ราเบโล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Dole Asia Holdings กล่าวถึงความพยายามของบริษัทในการยกระดับแนวปฏิบัติทางการเกษตร เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ผลผลิตที่ดีขึ้นสำหรับเกษตรกร ไปพร้อมกับการขับเคลื่อนแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนเพื่อลดขยะอาหารในพื้นที่ดำเนินงานขนาดใหญ่ขององค์กร
“ความเรียบง่ายเป็นแนวทางปฏิบัติพื้นฐานเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเราในการปูทางสู่การลดขยะอาหารให้เป็นศูนย์ เทคโนโลยีด้านการเกษตรหรือ Agtech มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดวาระการลดขยะและของเสียแบบเชิงรุกให้รุดหน้าไปอีกขั้น เทคโนโลยี IoT ที่ติดตั้งในฟาร์ม การติดตามไทม์ไลน์ผลผลิต และการปรับใช้ระบบดิจิทัลแบบ end-to-end จะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถปรับปรุงคุณภาพและมูลค่าผลิตภัณฑ์โดยรวมของเราอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และลดปริมาณของเสียได้มหาศาล สำหรับขยะที่เหลือ เราจะเน้นการอัพไซเคิลหรือการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วหรือของที่จะถูกทิ้งเป็นขยะมาแปลงให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น เช่น น้ำซุปกล้วยเข้มข้น, กล้วยแช่แข็ง ฯลฯ สำหรับ Dole เรายึดหลัก “ศิลปะแห่งความเป็นไปได้” และปณิธานอันแรงกล้าของเรา จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลดขยะผลไม้ให้กลายเป็นศูนย์ได้” ลีโอนาร์โด กล่าว