ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้ เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่น Cloud, IoT, Mobility และการทำงานแบบ Remote Working ได้เข้ามามีบทบาทในธุรกิจองค์กรเป็นอย่างมาก และทำให้แนวคิดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเครือข่ายและผู้ใช้งานนั้นต้องเปลี่ยนแปลงไป
เพื่อตอบโจทย์เหล่านี้ให้ได้อย่างครอบคลุม SASE และ SD-WAN ได้กลายเป็นเทคโนโลยีหลักที่ถูกเลือกใช้งานในธุรกิจองค์กรหลายแห่งทั่วโลก ทั้งด้วยข้อดีด้านการรวมศูนย์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยเอาไว้ด้วยกัน และการกระจายตัวเพื่อปกป้องผู้ใช้งานและอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าการเชื่อมต่อใช้งานนั้นจะเกิดขึ้นจากภายในหรือภายนอกองค์กรก็ตาม
SASE หรือ Secure Access Service Edge นั้นคือแนวทางในการผสมผสาน SD-WAN เข้ากับบริการ Network Security บน Cloud เข้าด้วยกัน และปกป้องผู้ใช้งานรวมถึงให้บริการเครือข่ายที่มีทั้งประสิทธิภาพและความมั่นคงปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ดังต่อไปนี้
• SD-WAN ให้บริการด้านการเชื่อมต่อเครือข่าย, VPN, Routing, Network Security และ WAN Optimization เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายเบื้องต้นได้อย่างมั่นคงปลอดภัย และเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่างสาขาขององค์กรเข้าด้วยกันได้อย่างง่ายดาย
• ZTNA หรือ Zero Trust Network Access ที่มีการบังคับให้ผู้ใช้งานทุกคนต้องทำการยืนยันตัวตนบนระบบ SASE ก่อนเสมอจึงจะสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้
• CASB หรือ Cloud Access Security Broker สำหรับปกป้องและควบคุมการเข้าถึงระบบ Application และข้อมูลต่างๆ บน Cloud รวมถึงป้องกันกรณีข้อมูลรั่วไหลด้วย Data Loss Prevention (DLP)
• SWG หรือ Secure Web Gateway สำหรับปกป้องผู้ใช้งานให้สามารถเข้าถึง Website และ Web Application ต่างๆ ได้อย่างมั่นคงปลอดภัยภายใต้นโยบายการควบคุมขององค์กร
• FWaaS หรือ Firewall as a Service ซึ่งเป็นบริการ Cloud Firewall ที่มีความสามารถหลากหลาย เช่น Deep Packet Inspection, IDS/IPS, Application Control และ Advanced Threat Prevention เพื่อตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานได้จากทุกที่ เหมือนกับที่ Next-Gen Firewall เคยปกป้องผู้ใช้งานในองค์กร