ดีเอ็กซ์ซี เทคโนโลยี หรือ DXC Technology (NYSE:DXC) ประกาศความสำเร็จในการอัพเกรดและการย้ายระบบบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร (ERP) ในส่วนของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ไปยังระบบคลาวด์ – ภายใต้ข้อกำหนดที่ระบุให้ DXC พัฒนาระบบบนโครงสร้าง Google Cloud Platform (GCP) แล้วทำการย้ายระบบ SAP S4/HANA ของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง สู่ระบบคลาวด์ พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานให้เกิดความราบลื่นต่อเนื่องไปอีก 5 ปีข้างหน้า
เอสซีจี (Siam Cement Group หรือ SCG) กลุ่มธุรกิจชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน เป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เป็นหนึ่งในสามกลุ่มธุรกิจหลักของเอสซีจี มุ่งเน้นการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซีเมนต์และคอนกรีต โดยบริษัทได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ดีเอ็กซ์ซี เทคโนโลยี มายาวนานกว่า 10 ปี ให้ทำการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จัดการเอาท์ซอร์สงานบริการทางด้านไอที จัดการระบบไพรเวทคลาวด์ ระบบความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการติดตั้งใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ และการให้บริการสนับสนุน
เนื่องจากการดำเนินงานทางธุรกิจของ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ใช้แอปพลิเคชัน SAP ERP ที่ถูกพัฒนาขึ้นหลายชุด (Instances) จึงจำเป็นต้องมีความสามารถเห็นและตรวจสอบข้อมูลการดำเนินงานได้ทั่วทั้งองค์กร (Enterprise-wide Visibility) ที่คมชัดครอบคลุมในทุกหน้าที่การทำงานทางธุรกิจ ด้วยแนวคิดที่มุ่งเน้นเป้าหมายดังกล่าวนี้ DXC จึงได้วางแนวทางให้เปลี่ยนจากการใช้โครงสร้างพื้นฐานเดิมแบบ on-premises มาเป็น Google Cloud Platform (GCP) โดยจะได้รับประโยชน์ดังต่อไปนี้ :
• การย้ายระบบไปสู่คลาวด์ที่รวดเร็วกว่า และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานของกลุ่มธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี น้อยที่สุด
• มีความสามารถในการปรับขยายหรือลดขนาดระบบ ERP เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของลูกค้าและปริมาณข้อมูลได้สะดวก
• สามารถรวม SAP หลายชุดเข้าด้วยกัน โดยย้ายการทำงานของ SAP เดิมทั้งหมด ขึ้นไปยัง Google Cloud Platform (ด้วย Platform as a Service) ช่วยให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ซึ่งกระจายอยู่ใน 33 บริษัทครอบคลุม 14 ประเทศ
“อุตสาหกรรมการก่อสร้างในภูมิภาคอาเซียนกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนผ่าน โดยกรอบแนวคิดและการให้ลำดับความสำคัญในสายตาของลูกค้ากำลังเปลี่ยนไป รวมถึงต้องปรับตัวเข้ากับ New-Normal อีกด้วย” คุณธาริณี จูเจริญ ผู้จัดการฝ่ายเทคโนโลยีดิจิทัล – ธุรกิจระดับภูมิภาค ของ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าว “ดังนั้นการที่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี หันมามุ่งเน้นใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบคลาวด์ จึงช่วยให้เราสามารถนำหน้าคู่แข่งในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างได้ เราได้จับมือกับพันธมิตรที่เราเชื่อมั่นอย่าง ดีเอ็กซ์ซี เทคโนโลยี ซึ่งคุ้นเคยและเข้าใจในระบบไอทีของธุรกิจของเราเป็นอย่างดี และได้ช่วยให้เราสามารถเร่งดำเนินการตามกลยุทธ์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของเราด้วยแนวทางที่คุ้มค่า”
นับตั้งแต่มีการใช้งานระบบใหม่บนคลาวด์ ได้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขึ้นมาก โดยทำให้พนักงานของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กว่า 1,000 คนสามารถใช้โซลูชั่นได้แบบบูรณาการครอบคลุมในด้านการเงิน การขาย ห่วงโซ่อุปทาน การจัดหาและการจัดซื้อ การผลิต และการวางแผนการผลิต
“การนำโซลูชั่นบนคลาวด์มาปรับใช้งานในแนวทางนี้ ช่วยทำให้เอสซีจีสามารถปลดล็อคความสามารถเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้แก่บริษัทได้ การที่เราได้รับความไว้วางใจในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่แข็งแกร่งของ ดีเอ็กซ์ซี เทคโนโลยี ในส่วนของ Enterprise Technology Stack และความสามารถของเราในการย้ายแอปพลิเคชันไปยังคลาวด์ด้วยวิธีที่ถูกต้องเพื่อสร้างความคุ้มค่าให้กับการลงทุนของลูกค้า” คุณอภิชาต อรุณคุณารักษ์ กรรมการผู้จัดการ ดีเอ็กซ์ซี เทคโนโลยี (ประเทศไทย) กล่าว “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ขับเคลื่อนธุรกิจและประสบความสำเร็จบนเส้นทางการเปลี่ยนแปลงไปยังคลาวด์”
ทั้งนี้ในระยะที่สอง จะพัฒนาย้ายบริษัทอื่นๆจาก SAP 4.7 มาใช้งานบนแพลตฟอร์ม SAP S4/HANA ได้อย่างกลมกลืน เพื่อใช้ประโยชน์จากระบบใหม่ที่มีความเร็วสูงและนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานตามโครงการที่วางไว้
“SAP และ DXC เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่ทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนานหลายปี” คุณ Atul Tuli กรรมการผู้จัดการของ SAP Indochina กล่าว “การย้ายไปยังคลาวด์จะช่วยให้ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ได้ใช้ประโยชน์จาก SAP S/4HANA ซึ่งเป็นโซลูชั่น ERP อัจฉริยะบนคลาวด์ ที่จะช่วยให้ทั่วทั้งองค์กรสามารถทำงานประสานกันเพื่อปลดล็อกประสิทธิภาพการทำงานให้สูงขึ้นสู่ระดับใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยให้ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี ได้ใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ และบริหารจัดการสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ เรายินดีที่ได้ร่วมมือกับดีเอ็กซ์ซีเพื่อช่วยให้ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นภายในบริษัท” คุณ Atul กล่าวเพิ่ม