ซิลลิค ฟาร์มา (Zuellig Pharma) หนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ได้เผยข้อมูลเชิงลึกภายในงาน SAPPHIRE NOW® ถึงแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ ให้มีความสามารถในการปรับตัวอย่างยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยได้
จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว ซิลลิค ฟาร์มา ต้องจัดการกับใบสั่งขายที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าได้รับเวชภัณฑ์ที่จำเป็น ซิลลิค ฟาร์มา จึงสร้างโปรแกรมบอต (Bot) หลายตัวใน SAP Intelligent Robotic Process Automation (RPA) ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถดึงข้อมูลจากช่องทางที่ไม่เป็นอัตโนมัติต่างๆ มาเก็บไว้ในระบบของ เอสเอพี
แดเนียล เลเวอร์ริค ผู้อำนวยการด้านการวางระบบ SAP และ IT Solutions จาก บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา เผยว่า “ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรค เราเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเสริมศักยภาพในแง่มุมต่างๆ เพื่อให้เราสามารถเติบโต ดำเนินการ และสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานด้านการดูแลสุขภาพที่ใหญ่ขึ้นและซับซ้อนมากขึ้น ด้วยแนวคิดนี้ เราเริ่มต้นเปลี่ยนผ่านระบบ ทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นกับ เอสเอพี และปรับใช้งานเทคโนโลยีให้ครอบคลุมกระบวนการทำงานของเราอย่างรวดเร็ว เพื่อจัดการกับจำนวนการสั่งซื้อของลูกค้าที่พุ่งสูงขึ้นจากประเทศต่างๆ เช่น เมื่อโควิด-19 ระบาดในประเทศไทย การที่มีความคล่องตัวและฉับไวในการประมวลผลใบสั่งขาย ทำให้สามารถประมวลผลคำสั่งซื้อขายเพิ่มขึ้นประมาณ 100,000 รายการในแต่ละวัน ซึ่งช่วยให้เราสานต่อภารกิจขององค์กรในการทำให้การดูแลสุขภาพเข้าถึงได้ง่ายขึ้น”
ทั้งนี้ บริษัทยังได้เปิดตัว eZVax โซลูชั่นการจัดการวัคซีนที่ช่วยให้รัฐบาลและลูกค้าเอกชน สามารถจัดการการแจกจ่ายและการบริหารวัคซีนในทุกด้าน โดยมีโซลูชั่น eZTracker ที่เป็นกรรมสิทธิ์และสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีบล็อกเชนของ เอสเอพี เพื่อแก้ไขปัญหาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ปลอมที่พบในห่วงโซ่อุปทานด้านการดูแลสุขภาพ นอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาซึ่งเป็นที่กังวลแล้ว eZTracker ยังช่วยให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับการปลอมแปลงและปรับปรุงการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพในท้ายที่สุดด้วย
ด้วยความมุ่งหวังที่จะช่วยให้โลกมีกระบวนการทำงานที่ดีขึ้นและพัฒนาชีวิตของผู้คน เอสเอพี ยังคงดำเนินงานสนับสนุนองค์กรและปัจเจกบุคคลในทุกอุตสาหกรรมด้วยโซลูชั่นที่ครอบคลุม เพื่อเอาชนะการแพร่ระบาดของโรคในปัจจุบัน เตรียมรับมือเดินหน้าสู่ New Normal พร้อมตอกย้ำจุดมุ่งหมายของ เอสเอพี จากการเปิดตัว SAP® Business Network ซึ่งเป็นการประกาศวิสัยทัศน์ครั้งสำคัญในการสร้างเครือข่ายชุมชนทางธุรกิจรูปแบบใหม่เพื่อช่วยปรับปรุงผลลัพธ์ทางธุรกิจ ผลักดันให้ธุรกิจสามารถเติบโตต่อไปได้ในสภาพเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน