Power of Ethernet (PoE) เทคโนโลยีที่รวมเอากระแสไฟฟ้าและสัญญาณข้อมูลที่สื่อสารมาผสานอยู่ในสายเคเบิลเส้นเดียวกัน ซึ่งนับวันก็ยิ่งได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ จนมีอุปกรณ์มากมายในท้องตลาดที่สามารถจ่ายกระแสและรับพลังงานไฟฟ้าพร้อมๆ กับสัญญาณข้อมูลบนสายเส้นเดียวกัน แต่ถ้าถามว่าสายเคเบิลอีเธอร์เน็ตทุกเส้นรองรับ PoE หรือไม่แล้ว? คำตอบคือ “ไม่”
เรามาลองทดสอบกัน
ขั้นตอนที่ 1 – ทดสอบสายเคเบิลด้วยวิธีมาตรฐาน
สิ่งที่ต้องทำแรกสุดในการยืนยันว่าสายเคเบิลอีเธอร์เน็ตของคุณรองรับ PoE ได้ก็คือ การทดสอบว่าสายเคเบิลผ่านมาตรฐานการทดสอบหน้างานตามหลัก TIA/ISO หรือไม่ ซึ่งในคลิปนี้แสดงให้เห็นว่า สายของ Jim Davis ผ่านมาตรฐาน ถ้าเกิดสายเคเบิลของคุณไม่ผ่านการทดสอบเบื้องต้นนี้แล้ว ก็มักจะไม่สามารถใช้งาน PoE หรือแม้แต่การใช้งานอีเธอร์เน็ตพื้นฐานอื่นๆ ได้ด้วย
ขั้นตอนที่ 2 – ทดสอบค่าความต้านทานของสายเคเบิล
แม้สายจะผ่านการทดสอบพื้นฐาน แต่ก็มีเกณฑ์บางอย่างที่ PoE ต้องการ แต่ไม่ได้อยู่ในการทดสอบตามมาตรฐาน TIA และ ISO ด้วย อย่างเช่นค่าความต้านทาน ซึ่งการจะใช้กับ PoE ได้นั้น สายเคเบิลจะต้องมีประสิทธิภาพด้านค่าต้านทานที่เหมาะสม โดยตามกฎของโอห์มแล้ว ยิ่งสายเคเบิลมีค่าความต้านทานมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องใช้ศักย์ไฟฟ้าจ่ายเข้าไปในสายมากขึ้นเพื่อผลักกำลังไฟให้วิ่งไปบนสายได้ตามต้องการ
เหตุผลก็คือ สเปกที่ใช้ทดสอบมาตรฐานหน้างานนี้ไม่ได้ทดสอบค่าความต้านทานไปด้วย อย่างไรก็ดี เครื่องทดสอบสายเคเบิลอย่างซีรี่ย์ DSX CableAnalyzer ของ Fluke Networks ก็สามารถแสดงค่าความต้านทานได้ถ้าคลิกตรงไอคอนแสดงข้อมูลเพิ่มเติม แม้การทดสอบนั้นจะไม่ได้แสดงว่าสายเคเบิลดังกล่าวรองรับ Power over Ethernet หรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้จึงมีการทดสอบชั้นสูงที่เรียกว่า “+PoE” ขึ้น
โดยตอนเลือกค่าที่ต้องการทดสอบสายเคเบิลอย่างเช่น Cat5e นั้น จะมีตัวเลือกการทดสอบเพิ่มเติม +PoE ที่มีเลือกแล้วจะเป็นการเปรียบเทียบค่าในมาตรฐาน IEEE ที่จำเป็นต่อการรองรับ PoE กับค่าความต้านทานของสายเคเบิล ซึ่งจากในคลิป การที่จะใช้ PoE ได้นั้น สายของคุณ Jim จะต้องรองรับค่าความต้านทานประมาณ 21 โอห์ม ดังนั้นสายที่ทดสอบในคลิปถือว่ามีค่าความต้านทานมากเกินไปที่จะใช้กับระบบ PoE ได้
อีกหนึ่งค่าที่ทดสอบได้จากการทดสอบขั้นสูงนี้คือ ค่าความไม่สมดุลของความต้านทาน และค่าความไม่สมดุลระหว่างคู่สาย โดยความไม่สมดุลระหว่างคู่สายหรือ Resistance Unbalance คือความแตกต่างของความต้านทานระหว่างลวดตัวนำสองเส้นบนสายเคเบิล ซึ่งสำคัญมากที่จะต้องมีค่าความต้านทานที่เหมาะสมบนแต่ละเส้น รวมทั้งมีค่าความต้านทานเหมือนกันบนลวดแต่ละเส้นในคู่สายเดียวกัน ดังนั้นการทดสอบนี้จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าทั้ง 4 คู่สายมีค่าความต้านทานขาไปและกลับ (Loop Resistance) เท่ากันเพื่อรองรับฟีเจอร์ Power over Ethernet ได้เต็มประสิทธิภาพ
เลือกเครื่องมือทดสอบ PoE อย่างเหมาะสม
กรณีที่ต้องการทดสอบขั้นสูงตามที่กล่าวมานี้ เพื่อประกันว่าเครือข่ายของคุณพร้อมที่จะรองรับ PoE เราแนะนำให้อัพเกรดมาใช้เครื่องมืออย่าง DSX CableAnalyzer™ Series Copper Cable Certifiers
