รัฐบาลทรัมป์ได้ตัดสินใจเพิ่มรายชื่อของยักษ์ใหญ่ด้านสมาร์ทโฟนอย่าง Xiaomi ติดบัญชีดำในฐานะบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการทหารของจีน นั่นหมายความว่า Xiaomi จะตกอยู่ภายใต้คำสั่งบริหารเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงทันที
คำสั่งดังกล่าวเป็นการบังคับให้ผู้ลงทุนของสหรัฐฯ ต้องแบ่งออก หรือขายทิ้งหุ้นของบริษัทใดๆ ที่ติดแบล็กลิสต์ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายนปีนี้ ทั้งนี้ Xiaomi ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ปักกิ่งถือเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดอันดับสามของโลกประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2020 อ้างอิงจาก Counterpoint Research
หลังข่าวนี้ออกมา หุ้นของบริษัทสัญชาติจีนรายนี้ในตลาดฮ่องกงก็ร่วงลงกว่า 10.6% หลังเปิดตลาดเมื่อเช้าวันศุกร์ อีกทั้งนักลงทุนอเมริกันก็ไม่สามารถเข้าซื้อหุ้น Xiaomi หรือหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องตามความเห็นของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ด้วย
อย่างไรก็ดี ก็ถือว่าได้ยืดอายุไปเล็กน้อย หลังจากคำสั่งบริหารของทรัมป์ที่เคยประกาศครั้งแรกได้ถูกขยายเวลาให้เริ่มมีผลบังคับภายในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้แทน ทาง Xiaomi เองก็ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใดๆ แม้จะมีการติดต่อไปจากสำนักข่าว CNBC
มีข้อสังเกตว่าบริษัท Xiaomi มีซื้อขายหุ้นในตลาดฮ่องกง แต่ไม่ได้มีซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ แต่อย่างใด ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ให้เหตุผลในประกาศนี้ว่า ต้องการประท้วงยุทธศาสตร์การพัฒนาของจีนที่เอาการทหารมาผูกติดกับภาคประชาชน
ด้วยนโยบายดังกล่าวของสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) เป็นการสนับสนุนเป้าหมายของกองทัพปลดแอกประชาชนของจีนหรือ PLA ที่ต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญชั้นสูงต่างๆ ทั้งหมดของคนสัญชาติจีน
ไม่ว่าจะเป็นของบริษัทใน PRC เอง มหาวิทยาลัยต่างๆ หรือแม้แต่โครงการวิจัยทั้งหลายที่มาจากพลเมืองของตัวเอง ทำให้สุดท้าย Xiaomi ก็ตกอยู่ในรายการ 1 ใน 9 องค์กรที่ถูกระบุว่าเป็น “บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการทหารของคอมมิวนิสต์จีน”
ที่มา : CNBC