หน้าแรก Security Hacker 5 แนวทาง ในการช่วยปกป้องคอมพิวเตอร์จากการถูกแฮ็ก !

5 แนวทาง ในการช่วยปกป้องคอมพิวเตอร์จากการถูกแฮ็ก !

แบ่งปัน

วัฒนธรรมของบริษัทปกติทั่วโลกได้เปลี่ยนไปอย่างมาก พนักงานส่วนใหญ่หันมาชื่นชอบการใช้อุปกรณ์ส่วนตัวในที่ทำงานเพื่อใช้ทำงานของตัวเองเนื่องจากมองว่ามีความสะดวก และมีประโยชน์ต่อประสิทธิภาพการทำงาน

ซึ่งตามข้อมูลแล้ว ทางซิสโก้พบว่านโยบาย BYOD (Bring Your Own Device) ช่วยเพิ่มระดับความพึงพอใจ และประสิทธิภาพขอวพนักงานได้จริง และการที่บริษัทสั่งห้ามใช้อุปกรณ์ส่วนตัวในการทำงาน ก็อาจผลักดันให้พนักงานแอบใช้แทนได้

ผลที่ตามมามีตั้งแต่การละเมิดข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของข้อมูล ไปจนถึงเปิดช่องทางเข้ามาให้กับการโจมตีทางไซเบอร์และกรณีข้อมูลรั่วไหล นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมจึงบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ ที่หันมาเปิดรับนโยบาย BYOD อย่างเต็มใจ

ทั้งนี้เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความต้องการพื้นฐานของพนักงาน และประสิทธิภาพของธุรกิจ ถ้าคุณกำลังจะอนุญาตให้พนักงานใช้อุปกรณ์ส่วนตัวแล้ว ก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องรักษาความปลอดภัยของสภาพแวดล้อมการทำงานเสียก่อน

โดยคุณจำเป็นต้องทำตามมาตรการความปลอดภัยพื้นฐานสำหรับอุปกรณ์ที่มีอยู่เพื่อให้ได้รับการปกป้องสูงสุด ซึ่งทาง TechNotification.com มีเคล็ดลับที่ยอดเยี่ยมเกี่บวกับเรื่องดังกล่าวไว้ดังต่อไปนี้

1. ติดตั้งโปรแกรมแอนติไวรัส

การใช้โปรแกรมแอนติไวรัสชั้นสูงกับคอมพิวเตอร์ของบริษัทถือเป็นหลักการพื้นฐาน ด้วยการเลือกหาแอนติไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับวินโดวส์ที่ตรงตามความต้องการที่จำเพาะของคุณ แล้วติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ภายในบริษัททุกเครื่อง

2. สร้างนโยบายด้านความปลอดภัยสำหรับอีเมลที่เข้มงวด

อีเมลนับเป็นแหล่งขนาดใหญ่ของการสื่อสารประจำวันในบริษัท จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่คุณต้องมีโพลิซีด้านความปลอดภัยของอีเมลที่แข็งแกร่งเอาไว้ใช้ ซึ่งถ้าคุณใช้ชุดบริการทางธุรกิจระดับมืออาชีพอย่าง Cloud 365 แล้วก็ถือเป็นเรื่องง่าย

3. ซ่อนที่อยู่ไอพีของคุณ

หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาทั้งความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในสภาพแวดล้อมบนโลกออนไลน์ปัจจุบันคือ การปกปิดที่อยู่ไอพีจริงของคุณ ซึ่งทำให้ยากต่อการที่อาชญากรไซเบอร์และแฮ็กเกอร์ที่จะบุกเข้ามาสร้างความเสียหายในบริษัท

4. ติดตั้งระบบ MDM

ระบบ Mobile Device Management หรือ MDM ถือเป็นองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับการทำงานของฝ่ายไอทีในบริษัทของคุณจะทำให้ทีมงานด้านความปลอดภัยของคุณสามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ที่พนักงานของคุณใช้ได้ดีขึ้น

5. ให้ความรู้แก่พนักงานและบังคับใช้กฎระเบียบ

พนักงานจำเป็นต้องตระหนักถึงช่องโหว่ที่อาจเป็นไปได้บนอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้ทำงานตัวอย่างเช่น พวกเขาควรจะรู้ว่าอีเมลฟิชชิ่งและโปรแกรมที่เป็นอันตรายสามารถตรวจสอบและหลีกเลี่ยงได้ และควรระลึกถึงวิธีระมัดระวังเวลาสื่อสารกับคนอื่นบนโลกออนไลน์

แต่ไม่ว่าพนักงานจะเอาอุปกรณ์ของตัวเองมาทำงาน หรือใช้อุปกรณ์ของบริษัทก็ตาม ก็ไม่ได้เปลี่ยนข้อเท็จจริงที่ว่ายังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอยู่เสมอ ซึ่งจนกว่าจะมีการวางมาตรการที่เหมาะสมไว้ล่วงหน้านั้น ธุรกิจของคุณก็อาจโดนจารกรรมข้อมูลที่เป็นความลับได้ตลอดเวลา

ที่มา : Technotification