หัวเว่ยได้ประกาศเปิดตัว AirEngine ในฐานะแบรนด์ใหม่สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Wi-Fi ของบริษัท ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ตระกูล Wi-Fi 6 ระดับองค์กร
การใช้เทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น Virtual Reality (VR), Augmented Reality (AR) และความละเอียดระดับ 4K นั้น ต้องการแบนด์วิธมากกว่า รองรับการใช้งานพร้อมกันได้สูงกว่า ขณะที่มีความหน่วงลดลง ซึ่งถือเป็นความท้าทายต่อเครือข่าย Wi-Fi แบบดั้งเดิม ความท้าทายเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในระหว่างที่องค์กรต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล นั่นคือจุดที่ AirEngine ของหัวเว่ยเล็งเห็นและก้าวเข้ามามีบทบาท AirEngine คือข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของหัวเว่ยที่มีต่อเครือข่าย Wi-Fi คุณภาพสูง โดยทำหน้าที่เป็นเครื่องมือเชื่อมต่อแบบไร้สายที่ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนบริการเป็นระบบดิจิทัลได้เร็วขึ้น
จุดเด่น 3 ประการที่ทำให้ AirEngine แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ได้แก่ ประสิทธิภาพสูงสุด ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีที่สุด และการสนับสนุนธุรกิจใหม่ โดยได้รับการรับรองจาก Tolly ซึ่งเป็นองค์กรทดสอบระดับนานาชาติที่ทรงอิทธิพล AirEngine สร้างขึ้นจากจุดแข็งด้านเทคนิคที่เกิดจากเทคโนโลยีสายอากาศอัจฉริยะ 5G ของหัวเว่ย และเทคโนโลยีการเร่งความเร็วแอปพลิเคชันอัจฉริยะ โดยสามารถปรับระดับความชาญฉลาดเพื่อมอบสุดยอดประสบการณ์ผู้ใช้และการบริการที่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ AirEngine ยังรองรับแอปพลิเคชันใหม่ ๆ เช่น 4K และ VR รวมทั้งอาศัยความร่วมมือที่แน่นแฟ้นกับพันธมิตร เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบไร้สายสำหรับการสอน การวิจัย การผลิต ตลอดจนบริการอื่น ๆ ที่มีความสำคัญต่อภารกิจขององค์กร พร้อมสนับสนุนการสร้างธุรกิจใหม่
“ด้วยจุดแข็งทางเทคนิคที่ไม่มีใครเทียบได้ Huawei AirEngine ทำให้เครือข่ายไร้สายสามารถรองรับบริการเครือข่ายมีสายแบบดั้งเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีเสถียรภาพ นอกเหนือไปจากข้อดีอื่น ๆ สำหรับองค์กร เช่น การสอนผ่าน VR/AR ได้อย่างราบรื่นไม่สะดุด การประชุมความละเอียดสูงระดับ 4K และสำนักงานแบบไร้สาย รวมไปถึงรถขนส่งอัตโนมัติ (AGV) ที่ปกป้องการสูญหายของข้อมูลในสภาพแวดล้อมการผลิตอุตสาหกรรม Huawei AirEngine จะเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของบริษัทในอุตสาหกรรมต่าง ๆ” จ้าว จื่อเผิง ประธานฝ่าย Campus Network Domain กลุ่มผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ย กล่าว