แน่นอนว่าภายในอีก 5 ปีข้างหน้า โลกของไวไฟจะย้ายมาใช้มาตรฐานใหม่อย่าง Wi-Fi 6 หรือที่เรียกชื่อรหัสแบบเก่าเป็น 802.11ax กันหมด แต่สำหรับชาวไอทีผู้ตื่นเต้นกับของใหม่อยู่ตลอดเวลานั้น 5 ปีดูยาวนานเกินไป
แต่ก็เช่นกันถ้าคุณคิดจะล้ำหน้าคนอื่นด้วยการกระโจนเปลี่ยนทุกอย่างมาใช้ของใหม่ ในเวลาที่หลายอย่างอาจยังไม่พร้อมรองรับร้อยเปอร์เซ็นต์เช่นนี้ ก็ย่อมเลี่ยงไม่ได้กับอุปสรรคนานับประการที่จะเข้ามาขัดขวาง
อย่างแรกเลยคือ มาตรฐานนี้ยังไม่สะเด็ดน้ำอย่างสมบูรณ์ เหล่าผู้ผลิตแอคเซสพอยต์ Wi-Fi 6 ที่รีบเข็นออกมาขายตอนนี้ต่างย้ำว่ายังใช้เทคโนโลยีที่ Wi-Fi Aliianceยังไม่พรูฟเต็มที่ จึงอาจมีความเสี่ยงในการนำไปใช้งานแล้วเกิดปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ทีหลัง ยิ่งกว่านั้น ตอนนี้ยังไม่มีสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ไคลเอนต์อื่นใดที่รองรับ Wi-Fi 6 ออกมาขายเลย
แล้วทำไมต้องรีบอัพเกรดเป็น 802.11ax?
แน่นอนว่าเพราะอนาคตยังไงทุกคนก็ต้องใช้ Wi-Fi 6 ในที่สุด ด้วยความสามารถที่เหนือชั้นกว่าเทคโนโลยีรุ่นก่อนๆ อย่างเป็นประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ลูกข่ายจำนวนมหาศาลผ่าน AP แค่ตัวเดียวได้ ย่อมทำให้ธุรกิจที่จำเป็นเช่น วงการโรงแรมและสถานที่บันเทิง หรือจะเป็นสนามกีฬา, หอประชุม, ศูนย์จัดแสดงสินค้าหรือเวทีกลางแจ้ง ก็ย่อมได้ประโยชน์จากการลงทุนเปลี่ยนใหม่นี้อย่างคุ้มค่า แม้การใช้งานบางอย่างเช่น การใช้เชื่อมต่อกับระบบ IoT โดยเฉพาะที่ใช้กันในภาคอุตสาหกรรม หรือตัวเซ็นเซอร์นั้นถูกมองว่าอาจไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไร เนื่องจากผู้ใช้กลุ่มนี้ยังรักที่จะใช้สายเชื่อมต่อเพื่อสื่อสารให้มั่นใจในความเสถียรมากกว่า
ปัญหาหลักของผู้นำเทรนด์ตอนนี้: ความเข้ากันได้
ในเมื่ออุปกรณ์ Wi-Fi 6 ที่ออกมาวางจำหน่ายตอนนี้มีแค่เราท์เตอร์และแอคเซสพอยต์ที่กระจายสัญญาณออกมา แล้วจะหาอุปกรณ์ของผู้ใช้ปลายทางไหนมาใช้ประโยชน์จากมาตรฐานใหม่นี้ได้ รวมถึงความแตกต่างระหว่างฮาร์ดแวร์ที่ออกมาก่อนมาตรฐานจะสรุปกันสมบูรณ์ กับฮาร์ดแวร์ที่เรียกว่าผ่านมาตรฐานทางการแล้ว อย่างเช่น อุปกรณ์ที่เคลมว่าตัวเองเป็น 802.11ax ตอนนี้อาจจะไม่สามารถการันตีได้ว่าจะรองรับทุกฟีเจอร์และมีประสิทธิภาพได้ตามมาตรฐานจริงที่ Wi-Fi Alliance จะสรุปออกมาทางการช่วงปลายปีนี้
ผู้เชี่ยวชาญจาก Forrester ยังออกมากล่าวว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่ธุรกิจจะจัดการอัพเกรดเป็น Wi-Fi 6 ยกเว้นมีกรณีพิเศษที่จำเพาะมากๆ เพราะไม่งั้นปัญหาด้านความเข้ากันได้จะสร้างความยุ่งยากเกินไป ดังนั้นถ้าจำเป็นจะต้องลงทุนกับฮาร์ดแวร์ที่มาตรฐานใหม่ยังไม่สะเด็ดน้ำแล้ว ควรคุยกับผู้จำหน่ายให้เคลียร์ก่อนว่าจะไม่เกิดปัญหาจริงๆ เวลาใช้งานต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะอย่าเชื่อกับคำว่า “ไม่มีปัญหาหรอก เชื่อสิ”
อย่าลืมว่าไม่ใช่อุปกรณ์ที่จำหน่ายทุกตัวสามารถเข้ากันได้กับอุปกรณ์มาตรฐานเก่า หรือ Backward Compatible คิดง่ายๆ ว่า ถ้าคุณเป็นผู้ผลิต แล้วจะต้องลงทุนวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่อยากโฆษณาว่าใหม่สด เป็นรายแรกของโลกแล้ว จะอยากสร้างใหม่ทั้งหมด หรือทำแค่เอาของเดิมมาพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์เพื่อเป็นของใหม่ล่ะ
ประโยชน์ของ 802.11ax
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ด้วยความสามารถที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากขนาดนี้ ย่อมทำให้ทุกคนหันมาใช้ 802.11ax กันหมดแน่นอน ไม่เพียงแค่ทรูพุตที่เยอะขึ้นเท่านั้น แต่ด้วยการตอบสนองที่ดีกว่า และมีความหน่วงหรือ Latency ต่ำ โดยเฉพาะเวลา AP ต้องรองรับกับอุปกรณ์จำนวนมาก โดยเฉพาะในยุคที่แต่ละคนพกอุปกรณ์เชื่อมต่อได้เกือบครึ่งโหล
การติดตั้งและจัดการ
นอกจากกระบวนการปกติที่ต้องทำไซต์เซอร์เวย์ ทดลองติดตั้งระบบ ทดสอบในวงจำกัดก่อนนำไปใช้จริงแล้ว มาตรฐานใหม่นี้ยังเปิดให้ผู้จำหน่ายต่างๆ คิดค้นผลิตภัณฑ์หรือบริการพิเศษกว่าเดิมเพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้ได้ด้วย เช่นการสร้างคอนโซลจัดการที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง Analytic, AI, และแมชชีนเลิร์นนิ่ง เป็นต้น ประเด็นคือมาตรฐานใหม่นี้ค่อนข้างยืดหยุ่นแต่ก็ซับซ้อนตามไปด้สน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ MU-MIMO สองทิศทาง และ BSS Coloring ดังนั้นในอนาคตก็น่าจะหันมาใช้ AI/ML แทนคนในการตั้งค่าและจัดการมากขึ้นด้วย
ที่มา : Networkworld
