ยิ่งเอาหม้อข้าวหม้อแกงหลักมาอยู่อาศัยหรือพึ่งพิงโลกออนไลน์มากเท่าไร ก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะอาชญากรรมทางไซเบอร์แบบใหม่ๆ ต่างคลืบคลานเข้ามาไม่หยุดหย่อน อย่างสมัยนี้ที่เน้นการขายของออนไลน์ผ่านเว็บหรือแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ หรือแม้แต่การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟน
ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนที่มีความเป็นความตายอยู่บนโลกออนไลน์จะต้องตระหนักถึงการปกป้องตนเอง 6 ประการดังต่อไปนี้
1. ระลึกเสมอว่าธุรกิจน้อยใหญ่ต่างมีความเสี่ยงทั้งสิ้น
ดังนั้นไม่ว่าจะธุรกิจแบบไหนหรือพึ่งพิงโลกออนไลน์มากน้อยเพียงใด ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะลดความระมัดระวังหรือความเข้มงวดในการปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัยได้ และควรมองหาวิธีสำรองเมื่อเกิดเหตุการณ์อันตรายที่กระทบกับข้อมูล หรือแผนสำรองเมื่อแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้อยู่มีปัญหาเสมอ
2. คอยอัพเดทระบบป้องกันของตนเองอย่างต่อเนื่อง
เช่น การอัพเดทแอนติไวรัส หรืออัพเดทแพลตฟอร์ม CMS ออนไลน์อยู่ตลอด เช่น WordPress, OpenCart, Shopify ฯลฯ เพื่ออุดช่องโหว่ใหม่ๆ ที่แฮ็กเกอร์ขยันมองหาและใช้ประโยชน์ แม้แต่การทำการตลาดผ่านอีเมล์, สังคมออนไลน์, หรือการทำคอนเท็นต์ผ่านช่องทางทั้งหลายก็อาจเปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาหาผลประโยชน์หรือบ่อนทำลายธุรกิจคุณได้ด้วยเช่นกันพยายามรอบคอบในการหาผู้ให้บริการด้านการตลาดที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่ไปใช้บริการแลกลิงค์, ปั่นไลค์, หรือบริการสแปมที่อาจทำให้คุณโดนแบน หรือโดนแฮ็ก
3. หลึกเลี่ยงการคลิกลิงค์สแปมจากทุกรูปแบบ
ไม่ว่าจะมาจากอีเมล์หรือโปรแกรมแชท ถ้าสงสัยถึงความน่าเชื่อถือแม้แต่นิดเดียว ให้โทรตรวจสอบกับต้นทางโดยตรงจะดีกว่า เป็นต้น
4. ใช้รหัสผ่านที่มีความยาวพอสมควร
รหัสผ่านที่มีความปลอดภัยมากที่สุดที่มีการวิจัยมาแล้วคือ รหัสที่มีความยาวมาก เนื่องจากแฮ็กเกอร์จะใช้เวลาในการสุ่มรหัสหรือ Bruteforceนานมากจนถอดใจ นอกจากนี้ให้ตั้งรหัสที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเช่น การผสมระหว่างตัวเลขและตัวอักษร หรือใช้โปรแกรมสุ่มรหัสผ่าน และใช้รหัสต่างกันระหว่างแต่ละเว็บไซต์ รวมทั้งหมั่นเปลี่ยนรหัสเป็นประจำ โดยอาจจะใช้โปรแกรมจัดการรหัสผ่านมาช่วยอำนวยความสะดวก
5. เข้ารหัสข้อมูลบนเว็บไซต์
ระวังอย่าเก็บข้อมูลในรูปข้อความล้วนหรือ Clear Text โดยเฉพาะรหัสผ่าน ควรใช้การสร้างแฮชข้อมูลหรือเข้ารหัสที่ต้องใช้คีย์ในการถอดและแสดงข้อมูลเท่าที่เป็นไปได้
6. สำรองไฟล์ข้อมูลไว้ที่อื่นด้วย
เพื่อรับมือกับการโจมตีที่ฮอตฮิตตอนนี้อย่างแรนซั่มแวร์ ที่โดนแล้วแทบจะไม่สามารถกู้ไฟล์คืนได้เลย (เพราะไม่รู้ว่าถ้ายอมจ่ายค่าไถ่แล้วจะได้รับคีย์ถอดรหัสจริงไหม หรือจะโดนดูดข้อมูลเอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นไปแล้วด้วยหรือไม่) ทางที่ดีควรลงทุนเลือกใช้โซลูชั่นความปลอดภัยที่มีคุณภาพ ที่คุ้มกับความเสี่ยงของธุรกิจคุณ
ที่มา : Hackread