แม้จะมีสายผลิตภัณฑ์ครอบคลุมกว้างขนาดไหน หรือมีกำลังทรัพย์มากมายเพียงใด ซิสโก้ก็ยังเผชิญกับคู่แข่งน้อยใหญ่ชนิดฆ่าไม่ตายอยู่หลายเจ้าอยู่ดี
ทาง NetworkWorld.com จึงได้รวบรวมรายชื่อบริษัทคู่แข่งของ Cisco ในแต่ละสาขาผลิตภัณฑ์ที่มีกระทบกับยอดขายพอสมควร ซึ่งจากทิศทางที่เปลี่ยนไปของซิสโก้จากฮาร์ดแวร์เครือข่ายมาเน้นลงทุนกับซอฟต์แวร์และระบบความปลอดภัย จึงทำให้กลุ่มคู่แข่งตลอดกาลได้เปลี่ยนแปลงไปบางส่วนดังต่อไปนี้
Arista
สำนักงานใหญ่อยู่ที่แคลิฟอร์เนีย มีพนักงานประมาณ 850 คนเมื่อปี 2557 เป็นคู่แข่งด้านสวิตช์แบบมัลติเลเยอร์, เครือข่ายแบบ Software-Defined, และเราท์ติ้งสวิตชิ่งแบบ EOS มีอดีตผู้บริหารซิสโก้ด้านดาต้าเซ็นเตอร์และสวิตชิ่งของซิสโก้อยู่เบื้องหลัง ทำรายได้มากกว่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2560 โดยเฉพาะจากซอฟต์แวร์ระบบเราท์ติ้งสวิตชิ่ง EOS
Juniper Networks
มีสำนักงานใหญ่อยู่แคลิฟอร์เนีย มีพนักงาน 9,400 คน (ปี 2561) เป็นคู่แข่งด้านเราท์เตอร์และสวิตช์, ระบบความปลอดภัย, และเครือข่ายแบบ Software-Definedครองตลาดกลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์ขนาดใหญ่ และผู้ให้บริการโทรคมนาคมมากมาย
Huawei
สำนักงานใหญ่อยู่เสินเจิ้น มีพนักงานมากถึง 180,000 คน (ปี 2560) เป็นคู่แข่งด้านระบบโทรคมนาคม และเครือข่ายระดับองค์กรด้วยประสบการณ์กว่า 31 ปี ทำให้แย่งลูกค้าจากซิสโก้โดยเฉพาะนอกสหรัฐฯ ได้เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันถือเป็นคู่แข่งที่ยอดขายด้านอุปกรณ์สวิตชิ่งอีเธอร์เนอร์เติบโตควบคู่กับซิสโก้ได้อย่างสูสี
Microsoft
มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เรดมอนด์ รัฐวอชิงตัน พนักงานกว่า 114.000 คน (ปี 2560) เป็นคู่แข่งด้านการสื่อสารแบบยูนิฟายด์ โทรศัพท์และวอยซ์, ระบบส่งข้อความแบบทันทีหรือ IM และระบบ Presence, การประชุมผ่านเว็บ, รวมทั้งซอฟต์แวร์และอุปกรณ์สำหรับไคลเอนต์โดยเฉพาะไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่หันมาลงทุนด้านซอฟต์แวร์ยูนิฟายด์อย่างหนัก จนเริ่มมาเบียดตลาดของซิสโก้ที่เคยครองตำแหน่งผู้นำอย่างมั่นคงมานาน
VMware
สำนักงานใหญ่อยู่ที่แคลิฟอร์เนีย พนักงาน 19,900 คน (ปี 2560) เป็นคู่แข่งด้านซอฟต์แวร์และบริการสำหรับคลาวด์คอมพิวติง รวมทั้งแพลตฟอร์มเวอร์ช่วลไลเซชั่นแม้จะเคยผูกสัมพันธ์เป็นพาร์ทเนอร์กับซิสโก้มายาวนานหลายโปรเจ็กต์ แต่ทว่าเมื่อปีที่แล้ว VMware ประกาศเลิกซัพพอร์ตโซลูชั่นเวอร์ช่วลสวิตช์จากเธิร์ดปาร์ตี้ โดยแจ้งให้ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ VMware vSphere แทน ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับยักษ์ใหญ่ด้านเวอร์ช่วลสวิตช์ทั้งซิสโก้เอง และ HPE กับ IBM ด้วย
Extreme Networks
สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย มีพนักงาน 1,628 คน (ปี 2561) เป็นคู่แข่งด้านโซลูชั่นเครือข่ายที่จัดการโดยซอฟต์แวร์, โครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย, ซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย, ระบบจัดการโพลิซี, ระบบ Analytics, ระบบความปลอดภัย และควบคุมการเข้าถึงมีอายุยืนยาวมาตั้งแต่ปี 2539 แล้วเร็วๆ นี้เพิ่งซื้อกิจการด้านเครือข่ายจากทั้ง Avaya และ Brocade จนประกาศคาดการณ์รายรับประจำปีมากถึง 1 พันล้านดอลลาร์ฯ โดยคาดหวังในการแย่งส่วนแบ่งตลาดจากซิสโก้
F5 Networks
มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซีแอตเทิล พนักงานจำนวน 4.460 คน (ปี 2560) เป็นคู่แข่งในด้านระบบเครือข่ายสำหรับบริการแอพพลิเคชั่นและเว็บแอพ (AND), ระบบความปลอดภัย, การจัดการประสิทธิภาพ, และระบบจัดการทรัพยากรเครือข่ายและบนคลาวด์มีอายุเก่าแก่ไม่แพ้กัน ตั้งแต่เปิดตัวอุปกรณ์แบ่งโหลดชื่อดัง BIG-IP เมื่อปี 2540 จนซิสโก้เริ่มเข้ามาบุกตลาดอุปกรณ์แบ่งโหลดทราฟิกระดับเลเยอร์ 4 – 7 ในปี 2555 โดยชูจุดเด่นด้านความสามารถในการทำเวอร์ช่วลบนผลิตภัณฑ์เราท์ติ้งสวิตชิ่งหลักของตนเอง จนกลายเป็นการขึ้นเวทีแย่งชิงตำแหน่งผู้นำจากคู่แข่งอย่าง F5 และ Citrix
HPE
สำนักงานตั้งอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย มีพนักงานกว่า 66,000 คน (ปี 2560) เป็นคู่แข่งด้านดาต้าเซ็นเตอร์และเซิร์ฟเวอร์, อุปกรณ์เครือข่าย, บริการให้คำปรึกษาและซัพพอร์ตด้านไอทีแม้กลุ่มลูกค้าของทั้งซิสโก้และ HPE จะไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกันเท่าไร แต่ HPE ก็ยึดตำแหน่งผู้นำด้านดาต้าเซ็นเตอร์มาอย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะด้านเซิร์ฟเวอร์สำหรับคลาวด์และอุปกรณ์สตอเรจ จนปัจจุบันซิสโก้ก็ยังรั้งตำแหน่งอันดับสามในตลาดโครงสร้างพื้นฐานระดับองค์กรอยู่
Check Point Software
สำนักงานตั้งอยู่ทั้งที่อิสราเอล และแคลิฟอร์เนีย มีพนักงานกว่า 4,281 คน (ในปี 2560) เป็นคู่แข่งทั้งด้านความปลอดภัยบนเครือข่ายและเอนด์พอยต์, อุปกรณ์พกพา, ความปลอดภัยของข้อมูล, และระบบจัดการความปลอดภัยจากการพยากรณ์มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยระดับองค์กรในปี 2561 ของ Gartner ว่าจะสูงมากถึง 9.63 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ โดยเพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนด้วยแรงผลักดันจากกฎหมายและมาตรฐานใหม่ รวมทั้งความหวาดกลัวภัยไซเบอร์ที่ดูใกล้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จึงกลายเป็นตลาดที่ซิสโก้ต้องการขยายส่วนแบ่งมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง เช่นเดียวกับคู่แข่งคนสำคัญในตลาดที่อยู่มานานมากอย่าง Check Point ที่เป็นผู้นำด้านไฟร์วอลล์และวีพีเอ็นมาตั้งแต่ปี 2536
Cumulus Networks
มีสำนักงานใหญ่อยู่แคลิฟอร์เนีย พนักงานจำนวน 101 – 200 คน เป็นคู่แข่งในด้านดาต้าเซ็นเตอร์, คลาวด์คอมพิวติง, และโอเอสลีนุกซ์สำหรับฮาร์ดแวร์มาตรฐานทั่วไปเป็นน้องใหม่ที่เปิดตัวเมื่อปี 2553 ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดโอเอสแบบโอเพ่นซอร์สที่ให้ลูกค้าสามารถนำไปรันบนฮาร์ดแวร์ใดก็ได้ จนมีลูกค้าเลือกใช้ Cumulus Linux แล้วตอนนี้กว่าพันราย ถือว่าโดนใจลูกค้ากลุ่มที่รันลีนุกซ์บนดาต้าเซ็นเตอร์เป็นอย่างมาก แถมยังได้รับการยกย่องเป็นผู้จำหน่ายที่มีวิสัยทัศน์หรือ Visionaries ในรายงาน Magic Quadrant ของ Gartner ประจำปี 2560 สำหรับผลิตภัณฑ์เครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์อีกด้วย
ที่มา : Networkworld