ฟอร์ติเน็ต ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ FortiOS 6.0 รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของซีเคียวริตี้แฟบริค (Security Fabric) โซลูชันของฟอร์ติเน็ตให้สามารถป้องกันภัยคุกคามในยุคดิจิตัลทรานสฟอร์เมชั่นได้อย่างครอบคลุมทุกเครือข่ายที่แตกต่างและลึกถึงระดับแอพพลิเคชั่น
นายไมเคิล ซี ผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานและซีทีโอของฟอร์ติเน็ตได้กล่าวว่า “ดิจิตัล ทรานสฟอร์เมชั่นได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ ไอโอที โมบายคอมพิวติ้ง และบริการของคลาวด์สร้างประโยชน์กับผู้ใช้ในหลายด้าน ซึ่งเป็นการเพิ่มพื้นที่ที่เป็นเป้าการโจมตีให้กว้างขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ด้วยความเร็วที่ภัยคุกคามพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็วนั้น ระบบความมั่นคงปลอดภัยจึงจำเป็นต้องหลอมรวมตัวเองเข้าไปในทุกภาคของดิจิตัลทรานสฟอร์เมชั่นเช่นกัน และต้องมีศักยภาพสูงสามารถตอบสนองการทำงานของธุรกิจที่เป็นแบบอัตโนมัติได้อย่างอัตโนมัติได้ ฟอร์ติเน็ตจึงได้เร่งพัฒนา FortiOS 6.0 ให้มาพร้อมกับความสามารถใหม่ๆ กว่าสองร้อยประการ ที่ช่วยให้สามารถมองเห็นภาพกว้างได้ ผสานกับข้อมูลภัยคุกคามอันชาญฉลาด (Threat intelligence) และเพิ่มความสามารถตอบสนองได้อย่างอัตโนมัติซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อธุรกิจ”
สำหรับความสามารถใหม่ๆ จากFortiOS 6.0 รุ่นใหม่ล่าสุด มีดังนี้
1. ความปลอดภัยในเครือข่าย
• พัฒนาความสามารถการควบคุมเส้นทางของ SD-WAN ให้รองรับกับ Transaction ที่เกิดขึ้น
2. ความปลอดภัยของ Multi-Cloud
• ซีเคียวริตี้แฟบริคจะเชื่อมต่อกับเข้ากับผู้ให้บริการ Cloud Connectors
• นอกจากนี้ FortiCASB 1.2 จะถูกผสานเข้ากับ Antivirus และ FortiCloud Sandbox เพื่อเสริมความสามารถด้านการตรวจจับและป้องกัน
3. ความมั่นคงปลอดภัยของอุปกรณ์ IoT ปลายทาง
• FortiClient 6.0 จะรองรับผู้ใช้งานบน Linux ให้สามารถเก็บข้อมูลของผู้ใช้ได้มากขึ้น
• Fabric Agent ใหม่จะสามารถส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ปลายทางมายังตัวแพลทฟอร์มซีเคียวริตี้แฟบริค
4. Advance Threat Protection (ATP)
• สามารถทำการตรวจสอบอย่างอัตโนมัติด้านความมั่นคงปลอดภัยระดับเครือข่ายที่สำคัญ
• บริการ FortiGuard Virus Outbreak Service (VOS) ช่วยปิดช่องว่างระหว่างการอัปเดต
• FortiGuard CDR ช่วยป้องกันเนื้อหาอันตรายที่ฝังอยู่ในไฟล์ Microsoft Office และ Adobe
• FortiGuard Indicators of Compromise (IOC) Service จะช่วยให้อัปเดตลิสต์รายการของปัจจัยที่เลวร้าย
• FortiSandbox ATP สำหรับ AWS ช่วยให้องค์กรต่อสู้กับภัยคุกคามทางคลาวด์ได้
5. อีเมล์และเว็บแอพพลิเคชั่น
• ด้วยการผสานระหว่าง VOS และ CDR ช่วยป้องกันการกระจายของการโจมตีได้อย่างรวดเร็ว
• สามารถแสดงภาพของอีเมล์และเว็บแอพพลิเคชั่นในเครือข่ายทั้งหมดได้จากศูนย์กลาง
6. การวิเคราะห์และบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัย
• ความสามารถในการตอบสนองเหตุการณ์ผิดปกติแบบใหม่บนซีเคียวริตี้แฟบริค
• ฟีเจอร์การ Hardening อย่างอัตโนมัติจะช่วยบังคับใช้ความมั่นคงปลอดภัยให้เป็นไปตาม Best Practice
7. Unified Access
• Switch และ Access Point ของฟอร์ติเน็ตจะสามารถตอบสนองเหตุการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยได้อย่างอัตโนมัติ
8. การแบ่งแยกการใช้งานของธุรกิจเพื่อรองรับ Intent-based network security
• ความสามารถให้มีการแบ่งแยกตามการใช้งานของธุรกิจได้ด้วยการติด Tag อุปกรณ์ อินเตอร์เฟส
• FortiGuardยังได้เพิ่มความสามารถในระบบการตรวจจับ Advance Threat ด้วย Artificial Intelligence อีกด้วย