802.11ac ถือเป็นมาตรฐาน Wi-Fi ใหม่ล่าสุดที่ใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ซึ่งให้อัตราการส่งข้อมูลเร็วมากถึง 1.3 Gbps แต่ทว่ายังไม่สามารถไล่ตามความต้องการของผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้อยู่ดี โดยเฉพาะในพื้นที่แออัดอย่างสนามบิน, ศูนย์การค้า, โรงแรม, สนามกีฬา, หรือแม้แต่ตามบ้านหรือสำนักงาน
ดังนั้น ทาง IEEE จึงได้พัฒนามาตรฐาน Wi-Fi ใหม่ที่เร็วแรงมากขึ้นไปอีก ด้วยนิยามที่ว่า “สัญญาณไร้สายประสิทธิภาพสูง” ภายใต้รหัส 802.11ax ซึ่งจะให้ทรูพุตต่อผู้ใช้มากกว่าปัจจุบันถึง 4 เท่า โดยถูกออกแบบมาสำหรับพื้นที่สาธารณะที่มีการใช้งานหนาแน่นสูงโดยเฉพาะ รวมทั้งเอื้อต่อสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ IoT, บ้านที่ใช้เน็ตอย่างหนัก, ตามคอนโดหรือออฟฟิศที่ใช้แอพเขมือบแบนด์วิธอย่างการประชุมผ่านวิดิโอด้วย
นอกจากนี้ 802.11ax ยังใช้แบ่งเบาภาระของสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ โดยเฉพาะในบริเวณอับสัญญาณหรือมีค่าบริการสูง แม้มาตรฐานนี้จะยังไม่สมบูรณ์พร้อมนำมาใช้ก่อนช่วงต้นปีหน้า แต่เหล่าผู้จำหน่ายทั้งหลายต่างรีบแย่งวิ่งเข้าหาจนปัจจุบันมีเราท์เตอร์มาตรฐานใหม่นี้ออกสู่ตลาดแล้ว และลูกค้าบางกลุ่มก็พร้อมนำมาใช้เนื่องจากสามารถอัพเกรดเฟิร์มแวร์ได้อีกครั้งเมื่อมาตรฐานประกาศอย่างเป็นทางการ
802.11ax ทำงานอย่างไร?
802.11ax นี้รองรับมาตรฐานเดิมย้อนไปถึง 802.11ac และ 802.11n ซึ่งมาตรฐานใหม่นี้ให้ทรูพุตเพิ่มขึ้นกว่า 40 เปอร์เซ็นต์จากการมอดดูเลตสัญญาณแบบ QAM ที่มีการจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบมากขึ้น ทำให้อัดข้อมูลลงต่อหนึ่งแพ็กเก็ตได้มากกว่า รวมทั้งยังใช้ช่วงคลื่นความถี่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ช่องสัญญาณที่กว้างกว่า หรือแม้แต่การแบ่งซอยช่องสัญญาณออกเป็นช่องย่อยๆ เพื่อเพิ่มจำนวนช่องให้เอนด์พอยต์เลือกช่องที่สัญญาณดีที่สุดสำหรับตัวเอง
รวมทั้งยังเพิ่มจำนวนการเชื่อมต่อในการดาวน์โหลดข้อมูลจากแอคเซสพอยต์ด้วย จาก 802.11ac ที่ใช้ระบบ MU-MIMO ซึ่งเพิ่มการเชื่อมต่อเพื่อโหลดข้อมูลพร้อมกันถึง 4 การเชื่อมต่อต่อหนึ่งแอคเซสพอยต์นั้น ใน 802.11ax ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 8 สตรีมมิ่ง รวมถึงใช้เทคโนโลยีปรับการยิ่งคลื่นให้เล็งไปยังเสาอากาศของตัวรับสัญญาณที่เชื่อมต่ออยู่ได้แม่นยำขึ้นด้วย
ยังไม่พอ 802.11ax ยังนำเทคโนโลยีของสัญญาณโทรศัพท์ LTE อย่าง OFDMA ที่ยกระดับ MU-MIMO ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้แบนด์วิธของผู้ใช้แต่ละรายเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า มองภาพให้ง่ายคือ มาตรฐานไวไฟเก่าเหมือนเคาเตอร์ธนาคารที่เปิดอยู่เคาเตอร์เดียวจนคนต้องต่อแถวยาวล้นออกมานอกธนาคาร ขณะที่ MU-MIMO เพิ่มจำนวนเป็น 4 เคาเตอร์ที่ให้บริการพร้อมกันได้ และ OFDMA ก็ได้เพิ่มให้เป็น 8 เคาเตอร์
802.11ax ทำงานบนทั้งสองย่านความถี่ไม่ว่าจะเป็น 2.4GHz และ 5GHz ทำให้สร้างช่องสัญญาณได้มากกว่าเดิม อีกทั้ง ax ยังทำ MU-MIMO ได้แบบฟูลดูเพล็กซ์ทั้งขาอัพโหลดดาวน์โหลด ขณะที่ ac เดิมทำได้แค่ขาดาวน์โหลดเท่านั้น
ยังมีเทคโนโลยีที่น่าจับตามองของ 802.11ax ที่เรียกว่า Target Wake Time ที่เพิ่มประสิทธิภาพการพักเครื่องหรือปลุกเครื่องมาทำงานของอุปกรณ์พกพาโดยเฉพาะสมาร์ทโฟน ซึ่งจะช่วยประหยัดการใช้แบตเตอรี่ได้เป็นอย่างมาก
802.11ax จะเริ่มต้นเมื่อไหร่
ในด้านผู้ผลิตนั้น ทาง Quantenna Communications ชิงผลิตชิป 802.11ax ออกมาเป็นเจ้าแรกเมื่อตุลาคม 2559 ที่รองรับการเชื่อมต่อบนย่าน 5GHz ถึง 8 สตรีม และบน 2.4GHz อีก 4 สตรีม ถัดมาเมื่อมกราคม 2560 Quantenna ก็ได้ออกชิปอีกรุ่นที่รองรับ 4 สตรีมบนแต่ย่านความถี่ด้วย
ทางคู่แข่งก็ไม่น้อยหน้า อย่าง Qualcomm ก็เปิดตัวชิป 802.11ax ตัวแรกเมื่อต้นปีที่แล้วเหมือนกัน ไล่ตามมาติดๆ ด้วย Broadcom และ Marvell ขณะที่เราเตอร์ 802.11ax ตัวแรกออกมาจาก Asus เมื่อสิงหาคมปีที่ผ่านมา โดยใช้ชิปของ Broadcom ที่รองรับสตรีมบนทั้งสองย่านความถี่แบบ 4×4 MIMO และให้ทรูพุต สูงสุดที่ 1.1Gbps บนย่าน 2.4GHz และ 4.8Gbps บน 5GHz
ทาง Huawei ได้เปิดตัวแอคเซสพอยต์ 802.11ax ที่ใช้ MIMO แบบ 8×8 โดยใช้ชิปจาก Qualcommรวมทั้งเมื่อมกราคมสดๆ ร้อนๆ Aerohive Networksได้ออกแอคเซสพอยต์แบบ 802.11ax ครั้งแรกที่ใช้ชิป Broadcom ซึ่งทั้งหมดนี้คาดว่าจะออกมาวางจำหน่ายได้ภายในกลางปีที่จะถึงนี้
เนื่องจาก IEEE ประกาศมาตรฐาน 802.11n เมื่อ 2550 และ 802.11ac เมื่อ 2556 จึงคิดว่า 802.11ax น่าจะต้องนับไปอีก 6 ปีจากมาตรฐานเดิม โดยคิดว่าน่าจะเริ่มสรุปภาพรวมออกมาได้ในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า
