จากปัจจุบันที่ทุกครัวเรือนเริ่มใช้อุปกรณ์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่มีแค่เราท์เตอร์ตัวเดียวที่เป็นหน้าด่านออกสู่ภายนอก ผลการวิจัยของ Trend Micro พบว่า เราท์เตอร์ตามบ้านถือเป็นเหยื่อที่อ่อนไหวมากที่สุดต่อการโจมตีแบบ Cross-Site Scripting (XSS) หรือการเจาะโค้ด PHP รวมไปถึงการถูกดึงเป็นส่วนหนึ่งในการโจมตีแบบ DNS Amplification ด้วย
เราท์เตอร์ตามบ้าน และอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) ทั้งหลายมักรันโอเอสเป็นลีนุกซ์ ซึ่งง่ายต่อการตกเป็นเหยื่อของมัลแวร์ที่พบอยู่บนคอมพิวเตอร์ลีนุกซ์ตามปกติ โดยเฉพาะมัลแวร์ที่แปลงให้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในการโจมตีแบบ DDoS โดยเฉพาะบ็อตเน็ต Mirai ที่แปลงเราท์เตอร์ตามบ้านของ Deutsche Telekom กว่า 900,000 เครื่องให้โจมตีเว็บไซต์ชื่อดังต่างๆ ครั้งใหญ่
นอกจากการโจมตีข้างต้นแล้ว ยังมีการใช้ประโยชน์จากการแปลงร่างเราท์เตอร์ตามบ้านเป็นซอมบี้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแฝงให้ประมวลผลทำเหมืองบิทคอยน์, การรันโค้ด IIS จากระยะไกล, การป่วนโค้ดจาวาสคริปต์, รันโค้ด WScript จากระยะไกล, รวมถึงการใช้ช่องโหว่ Buffer Overflow บนแอนดรอยด์ เป็นต้น ซึ่งประเทศที่ตกเป็นเหยื่อมากที่สุดได้แก่สหรัฐฯ รองลงมาเป็นจีน, เกาหลีใต้, แคนาดา, และรัสเซีย
ระบบความปลอดภัยของเครือข่ายภายในบ้านถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัยอย่างเช่น
1. การเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีฟีเจอร์ความปลอดภัย
2. การเปลี่ยนรหัสผ่านจากดีฟอลต์
3. ตรวจการตั้งค่า DNS อยู่เสมอว่ายังคงเป็นตามที่ตั้งไว้
4. เข้ารหัส Wi-Fi, อัพเดตซอฟต์แวร์และเฟิร์มแวร์อยู่เสมอ
5. เปิดใช้ไฟร์วอลล์บนเราเตอร์
6. ตั้งค่าเราเตอร์ให้โดนแฮ็กยากขึ้น เช่น เปลี่ยนซับเน็ต หรือตั้งค่าไอพีของเราเตอร์แบบสุ่ม (ไม่ใช่ .1 รวมถึงการเปิดใช้ SSL)
7. ตั้งค่าบราวเซอร์ให้ไม่สามารถเข้าถึงหน้าเว็บของเราเตอร์ได้
8. รวมถึงการเลือกใช้ระบบหรือโซลูชั่นความปลอดภัยเพิ่มเติม
ปัจจุบันมีระบบป้องกันการบุกรุกที่เกตเวย์จากผู้จำหน่ายที่ได้รับรางวัลการันตีอย่าง Trend Micro ซึ่งก็สามารถช่วยให้เราท์เตอร์ของคุณปลอดภัย เป็นต้น